รอยเตอร์ - สหประชาชาติระบุ ในวันพฤหัสบดี (28 เม.ย.) ว่า สถานการณ์ในอเลปโปเข้าขั้นหายนะ ตามหลังเหตุโจมตีทางอากาศเข่นฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 27 ศพ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏภายในเมืองแห่งนี้ ขณะที่การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวซีเรียหลายคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยง
ขบวนช่วยเหลือขบวนหนึ่งถูกโจมตีด้วยกระสุนปืนครกใกล้เมืองฮอมส์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนอีกขบวนต้องหยุดกลางคัน สืบเนื่องจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ จากการเปิดเผยของ ยาน เอกแลนด์ ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจด้านมนุษยธรรมในซีเรียของสหประชาชาติระบุ
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ระบุว่า การโจมตีทางอากาศได้สร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ยึดครองของกบฏในเมืองอเลปโป และคร่าชีวิตคนอย่างน้อย 27 คน รวมถึงเด็ก 3 คนและกุมารแพทย์คนสุดท้ายของเมืองนี้
เอกแลนด์บอกกับผู้สื่อข่าวในเจนีวา ว่า “มันมีความเสี่ยงสูงมาก ชีวิตพลเรือนจำนวนมากตกอยู่ในความเสี่ยง มีเจ้าหน้าที่มนุษยธรรมด้านสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์มากกมายเหลือเกินที่ถูกทิ้งบอบ์และเข่นฆ่า และในตอนนี้วิถีชีวิตของประชานหลายล้านคนก็ตกอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน”
“คณะแพทย์ถูกสังหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขถูกฆ่า และเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ถูกขัดขวางจากการเข้าถึงผู้ป่วย” เขากล่าว พร้อมระบุว่า “สถานการณ์หายนะในอเลปโปเสื่อมทรามลงในช่วง 24 - 48 ชั่วโมงหลังสุด เช่นเดียวกับพื้นที่ต่าง ๆ ในฮอมส์”
อเลปโป เป็นศูนย์กลางของการสู้รบที่ลุกลามซึ่งกัดเซาะการเจรจาสันติภาพที่นำโดยสหประชาชาติในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อตกลงยุติความเป็นปรปักษ์พังครืนลงไปและเหตุปะทะได้หวนคืนสู่แนวหน้าทางตะวันตกของซีเรียอีกครั้ง
เอกแลนด์ เผยว่า ปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติจะพยายามเข้าถึงพื้นที่ 35 จุดที่ถูกปิดล้อมและยากต่อการเข้าถึงระหว่างเดือนพฤษภาคม หลังจากสามารถเข้าถึงพลเรือนชาวซีเรีย 778,175 คนตามพื้นที่ถูกปิดล้อมหรือค่อนข้างเข้าถึงได้ยากในปีนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่สามารถเข้าไปยังเมืองดูมา, ฮาราสตา และ ดารายา 3 พื้นที่ซึ่งใกล้กรุงดามัสกัส ที่ถูกกองกำลังรัฐบาลปิดล้อม