xs
xsm
sm
md
lg

หยุดยิงส่อล่ม! “อะเลปโป” โดนถล่มครั้งแรกในรอบสัปดาห์ รบ.อัสซาดโวยสหรัฐฯ “จงใจทำลายข้อตกลง” หลังโจมตีทหารซีเรียตายเกลื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พลเรือนซีเรียเดินผ่านกองซากปรักหักพังหลังการโจมตีทางอากาศที่ย่าน การัม อัล-ญาบัล ในเมืองอะเลปโป เมื่อวันที่ 18 ก.ย.
เอเอฟพี - ข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียส่อแววล่มเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ได้โจมตีฐานที่มั่นของทหารซีเรียจนล้มตายไปหลายสิบนาย ขณะที่เมืองอะเลปโปก็ถูกโจมตีทางอากาศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับเมื่อสัปดาห์ก่อน

การทิ้งระเบิดบริเวณเขตอิทธิพลของกบฏในเมืองอะเลปโปถือเป็นการฝ่าฝืนอย่างร้ายแรงต่อคำสั่งหยุดยิงซึ่งเริ่มบังคับใช้เมื่อค่ำวันจันทร์ที่แล้ว (12) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเส้นทางส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังชุมชนที่ถูกปิดล้อม

รัสเซียและสหรัฐฯ ต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นฝ่ายละเมิดสัญญา และสถานการณ์ก็ยิ่งย่ำแย่ลงหลังจากที่ฝ่ายสหรัฐฯ ได้ลงมือโจมตีทางอากาศเมื่อวันเสาร์ (17) จนทำให้ทหารซีเรียเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก

รัฐบาลดามัสกัสออกมากล่าวหาวอชิงตันว่าจงใจทำลายข้อตกลงหยุดยิง

“การกระทำก้าวร้าวของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อให้ข้อตกลงหยุดยิงนี้ล้มเหลว” บาชาร์ จาฟารี ผู้แทนซีเรียประจำองค์การสหประชาชาติ แถลง

สถานการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (18) ถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับ โดยศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอนระบุว่า มีพลเรือนล้มตายไปถึง 11 คนในพื้นที่ซึ่งควรจะเป็นเขตปลอดความรุนแรง

ทางการรัสเซียระบุว่า สถานการณ์ในอะเลปโป “ตึงเครียดเป็นพิเศษ” พร้อมโทษฝ่ายกบฏซีเรียว่าเป็นต้นเหตุ

“ฝ่ายกบฏระดมยิงใส่ฐานที่มั่นของทหารซีเรียและเขตชุมชนอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ” อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลง

ด้าน ฌอง-มาร์ก เอโรต์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ก็กล่าวหาประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียว่าเป็นฝ่ายบั่นทอนข้อตกลงหยุดยิง

ศูนย์สังเกตการณ์ฯ รายงานว่า การโจมตีทางอากาศเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (18) ทำให้สตรีคนหนึ่งเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของฝ่ายไหน

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในเขตการัม อัล-ญาบัล ในเมืองอะเลปโป แจ้งว่าพบเห็นเด็กๆ ได้รับบาดเจ็บหลายคนจากการโจมตีครั้งนี้

ศูนย์สังเกตการณ์ฯ ระบุด้วยว่า เขตอิทธิพลของกบฏที่จังหวัดดารา (Daraa) ทางภาคใต้ของซีเรียถูกโจมตีด้วยระเบิดถังน้ำมัน 2 ลูกซ้อนเมื่อวันอาทิตย์ (18) ทำให้พลเรือนเสียชีวิตไปถึง 10 ราย รวมถึงเด็กคนหนึ่ง

“วันนี้เป็นวันที่มีผู้คนล้มตายมากที่สุด นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มบังคับใช้” รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์ฯ แถลงวานนี้ (18) พร้อมระบุว่ามียอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทั่วซีเรียรวมทั้งสิ้น 11 ราย และหากนับรวมตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (12) ก็จะอยู่ที่ 26 ราย

บูไธนา ชาบาน ที่ปรึกษาอาวุโสของ อัสซาด ระบุวานนี้ (18) ว่า สหรัฐฯ “เจตนา” โจมตีฐานที่มั่นของทหารซีเรีย

“ข้อเท็จจริงจากที่เกิดเหตุไม่ได้บ่งชี้เลยว่าเป็นความผิดพลาด หรือเหตุบังเอิญ” เขาให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

ข้อมูลจากศูนย์สังเกตการณ์ฯ ระบุว่า มีทหารซีเรียเสียชีวิตอย่างน้อย 90 นายจากการโจมตีทางอากาศบริเวณเนินเขาใกล้ๆ เมืองเดอีร์เอซซอร์ (Deir Ezzor) ขณะที่มอสโกให้ตัวเลขไว้เพียง 62 นาย

กลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ยอมรับว่า คงจะเข้าโจมตีที่มั่นของกองทัพซีเรียด้วยความผิดพลาดเมื่อวันเสาร์ (17) เนื่องจากคิดว่าเป็นฐานที่มั่นของไอเอส พร้อมยืนยันว่ากองกำลังพันธมิตร “ไม่มีทางโจมตีหน่วยทหารของซีเรียด้วยความจงใจ”

กองทัพซีเรียได้ต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) รอบๆ ฐานทัพอากาศเดอีร์เอซซอร์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ (18) ไอเอสก็ออกมาประกาศว่าได้ยิงเครื่องบินรบของซีเรียตกใกล้ๆ กับเมืองดังกล่าว ขณะที่สื่อซีเรียยืนยันว่ามีเครื่องบินถูกยิงตกและนักบินเสียชีวิตจริง แต่ไม่ระบุว่าเป็นฝีมือไอเอสหรือไม่

รัสเซียได้แสดงความ “กังวลอย่างยิ่ง” และเตือนว่าวอชิงตันจะต้องควบคุมพฤติกรรมของพวกกบฏที่ต่อสู้กับรัฐบาลอัสซาดให้ได้ “มิเช่นนั้นข้อตกลงหยุดยิงที่รัสเซียและสหรัฐฯ ร่วมกันผลักดัน... อาจตกอยู่ในความเสี่ยง”

กำลังโหลดความคิดเห็น