รอยเตอร์ /เอเอฟพี/เอเจนซีส์- กลุ่มสิทธิมนุษยชนThe Syrian Observatory for Human Rights เผยยอดเสียจากการปะทจำนวนอย่างน้อย 500 คนหลังจากกลุ่มIS บุกฐานทัพอากาศตาบากอฮ์ (Tabqa) ที่เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังซีเรียในพื้นที่เมื่อวันอาทิตย์(24) ซึ่งมีนักรบญิฮัดกลุ่ม IS เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 346 คน และกองกำลังซีเรียดับอย่างน้อย 170 คน คาดอาจยึดอาวุธหนัก รวมเครื่องรบจากฐานทัพ และยังมีความเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดาระหว่างIS และ นูสรา ฟรอนต์ (Nusra Front ) เครือข่ายอัลลกออิดะห์ในซีเรีย หลังพบอบู บาการ์ อัล-บักดาดี (Abu Bakr al-Baghdadi) ผู้นำสูงสุดสั่งการถอนกำลังจากเมืองฮอมสในวันอาทิตย์(24)เพื่อยกให้กับเครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย และล่าสุดวันพุธ(27) ทางกลุ่มนูสรา ฟรอนต์สามารถยึดทางสามารถยึดยึดจุดผ่านแดนเมืองคูเนตรา ที่ราบสูงโกลันติดกับอิสราเอลได้สำเร็จ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนThe Syrian Observatory for Human Rights รายงานว่า นักรบญิฮัด IS อย่างน้อย 346 คน ตั้งแต่เริ่มต้นการสู้รบในวันอังคาร(19) ทำให้การเผชิญหน้าครั้งล่าสุดในวันอาทิตย์(24)ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดระหว่างกลุ่ม IS และกองทัพซีเรียนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามกลางเมืองซีเรีย
โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนซีเรียที่เฝ้าจับตาสถานการณ์ความรุนแรงผ่านแหล่งข่าวในพื้นที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การสู้รบได้เริ่มต้นขึ้นภายในฐานทัพอากาศในวันอาทิตย์(24) ซึ่งฐานทัพอากาศตาบากอฮ์(Tabqa)ถือเป็นฐานที่มั่นทางทหารสุดท้ายของกองทัพซีเรียในพื้นที่ ซึ่ง IS สามารถยึดพื้นเป็นจำนวนมากของซีเรียและอิรักได้สำเร็จ
ใกล้กับเมืองรักกา ฐานที่ตั้งของกลุ่ม IS มีการเฉลิมฉลองโดยการยิงปืนขึ้นฟ้า และมัสยิดหลายแห่งได้ประกาศผ่านโทรโข่งแสดงความยินดีในชัยชนะที่ทาง IS สามารถบุกยึดฐานทัพอากาศสำเร็จ และต่างป่าวร้อง “พระอัลเลาะห์ผู้ยิ่งใหญ่” แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ และกลุ่มสิทธิมนุษยชนเชื่อว่าทาง IS ได้ยึดยุทโธปกรณ์ รวมถึงเครื่องบินรบที่จอดอยู่ในฐานทัพอากาศแห่งนี้ด้วย
นอกจากนี้นักรบญิอัด IS ได้เสียบหัวประจานศรีษะเหล่าทหารซีเรียที่จตุรัสกลางเมือง แหล่งข่าวรอยเตอร์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม และกล่าวต่อว่า เครื่องบินรบซีเรียได้บินมุ่งหน้ามายังเมืองรักกาหลังเกิดเหตุบุกยึด และในเช้าวันอาทิตย์(24) เครื่องบินรบซีเรียได้ทิ้งระเบิดรอบบริเวณฐานทัพอากาศ
ด้านสื่อของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า หลังการสู้รบ ทหารซีเรียเริ่มรวมตัวอีกครั้ง โดยแหล่งข่างกองทัพซีเรียให้สัมภาษณ์ว่า กองทัพซีเรียสามารถทำการอพยพสนามบินได้ทัน และทางกองทัพซีเรียยังคงมุ่งหน้าโจมตีกลุ่มก่อการร้ายต่างๆในพื้นที่ และทำให้ทางกลุ่มสูญเสียหนัก
อย่างไรก็ตาม ทางสื่อไม่ให้ตัวเลขการสูญเสียในเหตุการปะทะ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนซีเรียยังเปิดเผยต่อว่า IS ได้กักตัวทหารซีเรียไว้ในบริเวณใกล้บริเวณฐานทัพอากาศตาบากอฮ์ และเชื่อว่าคนเหล่านั้นตกเป็นเชลยของ IS
ก่อนหน้านั้นในวันศุกร์(22) กองทัพซีเรียได้ส่งกองกำลังสมทบไปยังฐานทัพอากาศตาบากอฮ์เพื่อสู้กับ IS ซึ่งทางกลุ่มได้ควบคุมพื้นที่ราว 1 ใน 3 ทางเหนือและทางตะวันออกของซีเรีย โดยภาพข่าวโทรทัศน์ของทีวีท้องถิ่นในวันเสาร์(23) แสดงภาพทหารซีเรียที่ต่อสู้รักษาฐานทัพอากาศแห่งนี้ไว้ และให้สัมภาษณ์ว่า ฐานทัพอากาศจะไม่ตกเป็นของ IS แน่นอน และมีนักรบญิฮัดจำนวนมากเสียชีวิตในการต่อสู้
ด้าน นูสรา ฟรอนต์ (Nusra Front )เครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรียใช้อาวุธที่ยึดได้มาจากอิรัก สามารถเข้ายึดฐานทัพซีเรียไว้ได้ถึง 3 แห่งในแถบนี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางซีเรียคาดคะเนว่า การลุกคืบของ IS ในตะวันออกกลางจะทำให้ท้ายที่สุดต้องบังคับให้โลกตะวันตกต้องขอความร่วมมือกับประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งกลุ่มมุสลิมติดอาวุธได้ แหล่งข่าวของธิงแทงก์ของรัฐบาลซีเรียให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ ในขณะที่สื่อรัสเซีย RT รายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า ถึงแม้ทางวอชิงตันเริ่มส่งโดรนออกตรวจการณ์ในซีเรียวันอังคาร(26) แต่ยังไม่มีแผนที่จะร่วมมือกับรัฐบาลซีเรียเพื่อต่อต้านกลุ่มมุสลิมติดอาวุธ ซึ่งในวันจันทร์(25) แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา อนุญาตให้ใช้ทุกทางเลือก รวมถึงการโจมตีทางอากาศกับกลุ่ม IS ในซีเรียหากสหภาพยุโรปหนุนหลัง โดยไม่ต้องฟังการเห็นชอบจากอัสซาด และทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย วาลิด มูอัลเลม ( Walid Muallem ) ต้องออกมาตอบโต้สหรัฐฯ หากสหรัฐฯทำเช่นนั้น จะถือเป็นการละเมิดอธิปไตยซีเรีย และเริ่มต้นก่อสงคราม แต่กระนั้น ยังแย้มว่า พร้อมที่จะร่วมมือประชาคมโลกในการต่อต้านก่อการร้าย
และถึงแม้สหรัฐฯจะประกาศไม่ต้องการร่วมมือกับอัสซาดในการสยบกลุ่ม IS แต่ RT รายงาน แหล่งข่าวดามัสกัสเผยกับเอเอฟพีว่า ข่าวกรองสหรัฐฯได้แชร์ข้อมูลความมั่นคงอย่างไม่เป็นทางการกับซีเรียผ่านรัสเซียและอิรัก “ ความร่วมมือด้านการข่าวเริ่มต้น ซึ่งสหรัฐฯได้ให้ข้อมูลข่าวกรองกับดามัสกัสผ่านทางแบกแดดและมอสโก”
และกลุ่มสิทธิมนุษยชนยังเปิดเผยต่อว่า พบถึงความเคลื่อนไหวระหว่างกลุ่มนูสรา ฟรอนต์ (Nusra Front ) กับกลุ่ม IS โดยพบว่าในวันอาทิตย์(24) ทางกลุ่ม IS ได้ถอนตัวออกมาจากฐานที่มั่นนอกเมืองฮอมส์(Homs) และล่าถอยออกมาจากทางตะวันออกหลังจากโดนกลุ่มมุสลิมติดอาวุธที่เป็นปรปักษ์เข้าโจมตี
โดยแหล่งข่าวในพื้นที่เปิดเผยกับกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า คำสั่งถอนตัวจากเมืองฮอมส์ออกมาจาก อบู บาการ์ อัล-บักดาดี (Abu Bakr al-Baghdadi) ผู้นำสูงสุดของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) เพราะทาง IS ต้องการยกเมืองฮอมส์ให้กับนูสรา ฟรอนต์
ในขณะที่เอเอฟพีรายงานว่า ในวันนี้(27)ทางกลุ่มนูสรา ฟรอนต์สามารถยึดทางสามารถยึดทางสามารถยึดยึดจุดผ่านแดนเมืองคูเนตรา ที่ราบสูงโกลันติดกับอิสราเอลได้สำเร็จ
"ทางกลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียร่วมกับกลุ่มติดอาวุธอื่นสามารถยึดจุดผ่านแดนเมืองคูเนตรา ในขณะที่การสู้รบอย่างหนักหน่วงกับกองทัพซีเรียยังดำเนินต่อไปในบริเวณใกล้เคียง" รามี อับเดล ราห์มาน (Rami Abdel Rahman) ผู้อำนวยการThe Syrian Observatory for Human Rights ที่มีฐานในอังกฤษเผย
มีทหารซีเรียอย่างน้อย 20 นาย และกลุ่มติดอาวุธอย่างน้อย 4 คนถูกสังหารในการปะทะที่เริ่มต้นในเช้าวันนี้(27) รวมถึงมีการระดมยิงปืนใหญ่ข้ามไปยังฝั่งที่ราบสูงโกลัน เขตยึดครองของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง และเป็นผลทำให้ทหารอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้พบกระสุนปืนใหญ่จำนวน 6 ลูกตกเข้าไปยังฝั่งอิสราเอลทำให้หน่วย IDF ของอิสราเอลยิงตอบโต้กลับ
ในทางปฎิบัติอิสราเอลทำสงครามกับซีเรีย และได้ยึดครองบางส่วนของที่นาบสูงโกลันร่วม 1,200 ตารางกม. และได้ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล และการกระทำครั้งนั้นม่เคยได้รับการรับรองจากนานาชาติ หลังจากอิสราเอลทำสงคราม 6 วันกับซีเรียในปี 1967