เอเอฟพี - วันนี้ (2 ก.ย.) ฟิจิได้ออกมาเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า ได้รับข้อเรียกร้องจากกบฏซีเรียที่ได้จับตัวสมาชิกกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติกว่า 40 ชีวิตเป็นตัวประกันบนที่ราบสูงโกลัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โมเซเซ ติกอยโตกา ผู้บัญชาการกองทัพฟิจิกล่าวว่า กบฏกลุ่มนี้ต้องการให้ยูเอ็นถอด “แนวหน้าอัล-นุสรา” ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรงอัลกออิดะห์ ออกจากบัญชีองค์การก่อการร้ายขององค์การสหประชาชาติ
เขากล่าวว่า นอกจากนี้กบฏกลุ่มนี้ยังต้องการให้มีการส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าไปยังเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งนอกกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มแนวหน้า อัล-นุสรา ทั้งยังเรียกร้องขอค่าชดเชยให้แก่นักรบ 3 คนในกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ติกอยโตกา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงซูวา ประเทศฟิจิว่า “ทั้งหมดนี้เป็นข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการ ที่กบฏกลุ่มนี้ต้องการจากยูเอ็น แลกกับการปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ของพวกเรา”
รายงานข่าวซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยันจากสื่อของฟิจิระบุว่า นอกจากนี้ กลุ่มคนร้ายที่จับตัวประกันไปยังเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ อาบู มุสซับ อัล-ซูรี หรือที่เป็นที่รู้จักในชื่อ เซตมาเรียม นาซาร์ ซึ่งถูกจับกุมในปากีสถานเมื่อปี 2005 และกำลังถูกทางการซีเรียควบคุมตัวในตอนนี้
ติกอยโตกากล่าวว่า มีทหารถูกจับไปเป็นเชลยระหว่างปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพบนที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนระหว่างอิสราเอลกับซีเรียทั้งหมด 45 คน ไม่ใช่ 44 หรือ 43 คนอย่างที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรับผิดชอบระบุในตอนแรก เขาได้เปิดเผยรายชื่อทหารเหล่านั้น และกล่าวว่ารัฐบาลฟิจิกำลังพยายามแก้ไขวิกฤตจับตัวประกัน เพื่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่ชาวฟิจิ
เขากล่าวว่า คณะผู้แทนในการเจรจาของยูเอ็น จากสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์กได้เดินทางไปถึงที่ราบสูงโกลัน เพื่อทำหน้าที่เจรจาต่อรองกับกบฏกลุ่มนี้แล้ว
เขากล่าวว่า “โชคร้ายที่เรายังไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้เลย ทหารของเรายังถูกจับตัวไว้ในสถานที่ซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผย กบฏไม่ยอมบอกเราว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน”
“อย่างไรก็ตาม (กบฏ) ยังรับรองกับเราว่าพวกเขาได้รับการดูแลอย่างดี พวกเขาได้กินอาหารครบทุกมื้อ และอยู่ในที่ปลอดภัย และบอกเราด้วยว่าได้พาตัวพวกเขาออกจากเขตสู้รบแล้ว”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชาวฟิจิกลุ่มนี้ถูกจับตัวไปตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (27 ส.ค.) ขณะที่กบฏก่อเหตุโจมตีจุดผ่านแดนอิสราเอล-ซีเรีย บนที่ราบสูงโกลัน
ส่วนชาวฟิลิปปินส์ 72 คน ที่เป็นสมาชิกกองกำลังรักษาสันติภาพอีกชุดหนึ่งได้ปฏิเสธที่จะวางอาวุธ และสามารถหลบหนีออกมาจากค่ายยูเอ็น 2 แห่งบนที่ราบสูงโกลันในฝั่งซีเรียออกมาได้ในที่สุด หลังถูกกบฏวางกำลังปิดล้อมโจมตี
ทหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ “กองกำลังสังเกตการณ์การสงบศึก” ของยูเอ็น (UNDOF) ซึ่งประจำการอยู่บนที่ราบสูงโกลัน เพื่อจับตาดูสถานการณ์ในพื้นที่กันชน ภายหลังที่ซีเรียบรรลุข้อตกลงพักรบกับอิสราเอลนับตั้งแต่ปี 1974
