เอเจนซีส์/MGR online - รายงานล่าสุดซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียตะวันตก (ESCWA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดขององค์การสหประชาชาติ ร่วมกับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ส ระบุ ชาวซีเรียราว 83.4 เปอร์เซ็นต์ มีสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับจำนวน 28 เปอร์เซ็นต์ จากการสำรวจเมื่อปี 2010
สงครามกลางเมืองซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2011 ส่งผลให้ประชาชนในประเทศนี้ราว 13.5 ล้านคน อยู่ในข่ายที่ต้องรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนนับถึงเมื่อช่วงปลายปี 2015 ซึ่งในจำนวนนี้มีมากกว่า 4 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในกรุงดามัสกัส และจังหวัดอเลปโป
ส่วนอีก 12.1 ล้านคน กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำสะอาด ปัญหาด้านสุขอนามัย และการจัดการขยะ ขณะที่อายุเฉลี่ยของชาวซีเรียก็หดสั้นลงเหลือเพียง 55.4 ปี ในปี 2014 จากระดับ 70 ปี ของเมื่อปี 2010
รายงานฉบับล่าสุดยังพบข้อมูลว่า สงครามกลางเมืองซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในซีเรียไปแล้วมากกว่า 270,000 รายนี้ ยังส่งผลกระทบให้เด็กๆ ราว 2.7 ล้านคน ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน
ขณะที่ราวครึ่งหนึ่งของโรงพยาบาล จำนวน 493 แห่ง ทั่วซีเรีย ได้รับความเสียหายขั้นรุนแรงจากการสู้รบ จนแพทย์ และพยาบาล ตลอดจนเภสัชกรจำนวนมากต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยของจำนวนผู้ป่วยในซีเรียพุ่งขึ้นเป็น 1,442 รายต่อแพทย์ 1 ราย เมื่อถึงปี 2015
นอกจากนั้น ผลสำรวจยังพบว่า เศรษฐกิจของซีเรียประสบภาวะหดตัวสูงถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างช่วงปี 2010-2015 จากผลพวงของความขัดแย้งในประเทศ
