รอยเตอร์ - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อวันอังคาร (12เม.ย.) โดยอ้างถึงภาวะชะลอตัวในจีน ราคาน้ำมันตกต่ำต่อเนื่อง และความอ่อนแอเรื้อรังในเหล่าชาติพัฒนาแล้ว
ไอเอ็มเอฟ ซึ่งมีกำหนดประชุมประจำปีช่วงฤดูใบไม้ผลิกับธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ในวอชิงตันสัปดาห์นี้ ประมาณการว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.2 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2016 ปรับลดจากการคาดคะเนก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม ที่ประมาณการว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะเติบโตราว 3.4 เปอร์เซ็นต์
ในรายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook หรือ WEO) ฉบับล่าสุด กองทุนแห่งนี้เตือนถึงความเสี่ยงเผชิญกับภาวะซบเซาอย่างกว้างขวาง และบอกว่าการเติบโตที่ทรุดโทรมลงอาจทำให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงกว่าเดิมในการรับมือกับเรื่องช็อกต่างๆ อย่างเช่นการลดค่าเงินหรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ
ทางไอเอ็มเอฟเรียกร้องเหล่าผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกที่กำลังเข้าร่วมประชุมระหว่างกองทุนกับเวิลด์แบงก์ ดำเนินการอย่างสอดคล้องกันเพื่อเพิ่มอุปสงค์ด้วยการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านมาตรการทางการคลังเท่าที่จะเป็นไปได้และผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน
“การเติบโตในอัตราที่ต่ำลง นั่นหมายความว่าเหลือช่องว่างให้ก่อความผิดพลาดน้อยลงเช่นกัน” มอริซ อ็อบส์เฟรด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟกล่าว “ภาวะเติบโตชะลอตัวอย่างเรื้อรังส่งผลกระทบที่น่ากลัว ที่อาจกัดเซาะผลิตผล อุปสงค์ และการลงทุน”
ไอเอ็มเอฟปรับลดประมาณการการเติบโตของญี่ปุ่นลงครึ่งหนึ่งเหลือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016 และบอกว่าเศรษฐกิจของบราซิลจะหดตัวถึง 3.8 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ จากเดิมที่เคยประมาณการก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 3.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังฟันฝ่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ หนึ่งในจุดที่ค่อนข้างสดใสในเศรษฐกิจโลก ก็ถูกปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจเช่นกัน โดยปรับลดจาก 2.6 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 2.4 เปอร์เซ็นต์ ด้วยไอเอ็มเอฟมองว่าดอลลาร์ที่แข็งค่าคือปัจจัยที่เหนี่ยวรั้งภาคการส่งออกของอเมริกา ส่วนราคาน้ำมันระดับต่ำก็ส่งผลกระทบต่อการลงทุนภาคพลังงาน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนเป็น 6.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และ 6.2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2017 บางส่วนสืบเนื่องจากคำแถลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ แต่ไอเอ็มเอฟคาดหมายว่าการเติบโตของจีนจะยังคงอ่อนแอ ในระหว่างที่พวกเขาแปรเปลี่ยนเข้าสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภค
“ด้วยที่คาดหมายว่าภาวะชะลอในจีนจะรุนแรงมากกว่าปัจจุบัน อาจส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่อนานาชาติผ่านการค้า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และความเชื่อมั่น และอาจนำมาสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยทั่วไป” ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด
ก่อนหน้านี้ 3 ครั้งที่ผ่านมา ในเดือนกรกฎาคม, ตุลาคม และมกราคม ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกทั้งหมด