เอเอฟพี/MGRออนไลน์ - นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ออกมาปฏิเสธในวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) หลังจากถูกน้องสาวแท้ๆ ของเขากล่าวหาว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่และพยายามสถาปนาราชวงศ์ ทั้งนี้ความแตกร้าวภายในครอบครัวนี้ถูกแพร่ออกมาให้สาธารณชนรับทราบไม่กี่สัปดาห์หลังครบรอบ 1 ปีแห่งการอสัญกรรมของ ลี กวนยู บิดาของคนทั้งสอง
ในการแสดงปฏิกิริยาตอบโต้การโจมตีจาก ลี เว่ยหลิง (Lee Wei Ling) น้องสาวของเขาเอง นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ระบุในข้อความที่โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กว่า เขารู้สึก “เศร้าใจอย่างล้ำลึก” จากการกล่าวหาดังกล่าว และเรียกการกล่าวอ้างเหล่านี้ว่า “ไม่มีความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง”
สิงคโปร์รำลึกวาระครบรอบ 1 ปีแรกแห่งการอสัญกรรมของ ลี กวนยู เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา โดยที่บุรุษผู้ได้รับการยกย่องเป็นบิดาผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ผู้นี้ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศและปกครองสิงคโปร์แบบเผด็จการรวบอำนาจถึงแม้จัดให้มีการเลือกตั้งในช่วงตั้งแต่ปี 1959 จนถึงปี 1990
การสิ้นชีวิตในวัย 91ปีของเขาจุดประกายให้ชาวสิงคโปร์จำนวนมากมายออกมาแสดงความเศร้าโศกไว้อาลัยกันอย่างขนานใหญ่ หลายๆ คนยกย่องให้เครดิตบุรุษที่เป็นผู้นำของครอบครัวลีผู้นี้ว่าเป็นผู้ผลักดันเปลี่ยนแปลงสิงคโปร์จากการเป็นอดีตอาณานิคมอังกฤษซึ่งมีฐานะยากจน ให้กลายเป็นหนึ่งในชาติที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยที่สุดและสังคมมีเสถียรภาพมากที่สุดของโลก
ในวาระครบรอบ 1 ปีแรกเมื่อเดือนที่แล้วมีการจัดกิจกรรมรำลึกต่างๆ มากกว่า 100 กิจกรรมทีเดียว
ทว่า ลี เว่ยหลิง น้องสาวของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอาชีพเป็นแพทย์ และมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสอยู่ที่สถาบันประสาทวิทยาศาสตร์ (National Neuroscience Institute) ได้นำเรื่องออกสู่สาธารณชน ด้วยการเขียนบนเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การจัดงานรำลึกเคารพเชิดชูดังกล่าว ซึ่งเธอชี้ว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสร้างราชวงศ์ ทั้งนี้ หลังจากข้อเขียนของเธอซึ่งส่งให้แก่ “สเตรทส์ไทมส์” หนังสือพิมพ์รายวันชั้นนำของสิงคโปร์ ได้ถูกปฏิเสธไม่นำออกตีพิมพ์เผยแพร่
ในวันอาทิตย์ (10) เธอได้นำอีเมลที่เธอเขียนติดต่อกับบรรณาธิการคนหนึ่งของสเตรทส์ไทมส์ ออกมาเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก โดยในอีเมลดังกล่าวเธอกล่าวหาพี่ชายของเธอว่า “ไม่มีความหวั่นใจเลยในการใช้อำนาจของเขาไปโดยมิชอบ” ด้วยการจัดเวทีให้มีพิธีรำลึกเคารพเชิดชู ทั้งๆ ที่บิดาของเธอและเขาสิ้นชีวิตไปได้เพียงแค่ 1 ปี
ลี เว่ยหลิง เขียนว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งแห่งความพยายามของ “ท่านผู้ครองอำนาจ” ที่จะ “สถาปนาราชวงศ์” ขึ้นมา พร้อมกันนั้นเธอประกาศให้คำมั่นว่าจะไม่ยินยอมปล่อยให้ชื่อของบิดาเธอถูก “ทำให้แปดเปื้อนมีมลทิน”
ในข้อเขียนที่โพสต์บนเฟซบุ๊กก่อนหน้านั้น เธอกล่าวว่า ลี กวนยู “คงจะก้มศีรษะตัวลีบทีเดียว ในการที่ถูกเคารพบูชาว่าเป็นวีรบุรุษเช่นนี้หลังจากที่สิ้นชีวิตไปเพียงแค่ 1 ปี”
ทางด้านนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง เขียนตอบโต้ว่ากิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่แล้ววางแผนดำเนินการโดยพวกพลเมืองซึ่งต้องการที่จะแสดงความเคารพยกย่องอดีตผู้นำที่ล่วงลับ
“การมีความคิดที่ว่าผมปรารถนาที่จะสถาปนาราชวงศ์ขึ้นมายิ่งไร้เหตุผลเข้าไปใหญ่ การปกครองด้วย “คุณธรรมนิยม” (Meritocracy) คือค่านิยมพื้นฐานประการหนึ่งของสังคมของเขา และไม่ว่าผม, พรรคพีเอพี (พรรคพีเพิลส์ แอ็กชัน ปาร์ตี้ ที่เป็นพรรคผู้ปกครองสิงคโปร์), หรือสาธารณชนสิงคโปร์ก็ตามที จะไม่มีทางอดทนอดกลั้นต่อความพยายาม (ที่จะสถาปนาราชวงศ์) ดังกล่าวเลย” ลีเขียนเช่นนี้ในเฟซบุ๊ก
ลี เซียนลุง ซึ่งปัจจุบันอายุ 64 ปี ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศตั้งแต่เมื่อปี 2004 เขายังมีน้องชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ ลี เซียนหยาง (Lee Hsien Yang) ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำในแวดวงธุรกิจ