เอเอฟพี - พรรคกิจประชาชน (PAP) ซึ่งครองอำนาจในสิงคโปร์มานานถึง 56 ปีคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตามผลการนับคะแนนที่ประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้ (12 ก.ย.) ซึ่งทำให้ผู้ที่หวังจะเห็นระบบการเมืองแบบ 2 พรรคในสิงคโปร์ต้องฝันสลาย
พรรคพีเอพีของนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ซึ่งปกครองประเทศมายาวนานตั้งแต่ได้รับเอกราช สามารถกวาดที่นั่งไปได้ถึง 83 จากทั้งหมด 89 ที่นั่งในรัฐสภา หรือประมาณเกือบ 70% ของคะแนนโหวตทั้งหมด สร้างความตกตะลึงแก่กลุ่มฝ่ายค้าน และยังถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ในการกอบกู้คะแนนนิยมของพรรคพีเอพี ซึ่งเคยได้ป๊อปปูลาร์โหวตลดลงเป็นประวัติการณ์ในศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2011
ผลเลือกตั้งครั้งนี้ยังช่วยยกระดับความชอบธรรมให้แก่นายกฯ ลี ท่ามกลางเสียงเตือนจากนักวิเคราะห์ที่ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ซึ่งพึ่งพาการค้าเป็นหลักอาจเผชิญ “ภาวะถดถอยทางเทคนิค” ในไตรมาส 3 ของปีนี้
“นี่คือผลการเลือกตั้งที่ดีสำหรับพรรคพีเอพี แต่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับสิงคโปร์” ลี วัย 63 ปี กล่าว พร้อมยอมรับว่า เสียงสนับสนุนที่ได้รับล้นหลามเกินความคาดหมายของพรรค
การถึงแก่อสัญกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวนยู รัฐบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา นำความเศร้าสลดมาสู่ชาวสิงคโปร์ทั้งประเทศ และยังปลุกกระแสความรักชาติให้เข้มข้นรุนแรงขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้พรรคพีเอพีกวาดคะแนนเสียงได้อย่างถล่มทลาย
พรรคพีเอพีภายใต้การนำของ ลี กวน ยู สามารถพลิกโฉมเกาะเล็กๆ ซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมอังกฤษให้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกได้ในชั่วอายุคนเดียว แต่ขณะเดียวกันก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจำคุกผู้ต่อต้าน และการใช้ข้อหาหมิ่นประมาทปิดปากฝ่ายค้าน
แม้หลายฝ่ายจะคาดเดาได้ล่วงหน้าว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้ “ไม่มีคำว่าแพ้” สำหรับพรรคพีเอพี ทว่าคะแนนที่ออกมายังเป็นการพลิกผลโหวตเมื่อปี 2011 ซึ่งพรรครัฐบาลสิงคโปร์ได้ที่นั่งในรัฐสภาเพียง 80 จาก 87 ที่นั่ง และได้คะแนนป๊อบปูลาร์โหวตเพียง 60%
โลว์ เซี่ยเกียง หัวหน้าพรรคแรงงานฝ่ายค้าน (WP) ยอมรับว่ามวลชนสิงคโปร์ต่างพากันเทคะแนนให้พรรครัฐบาลพีเอพี ทว่าพรรคของเขาก็พร้อมจะสู้ต่อ
“มีแพ้มีชนะ ผมคิดว่านั่นคือส่วนหนึ่งของชีวิต” เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ฝ่ายค้านพยายามหยิบยกประเด็นทางสังคมต่างๆ มาโจมตีรัฐบาลในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการไหลเข้าของผู้อพยพต่างชาติ, ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ตลอดจนความทุกข์ยากของผู้สูงอายุและชาวสิงคโปร์ที่มีฐานะยากจน
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีชาวสิงคโปร์ออกมาใช้สิทธิมากถึง 93.56% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 2.46 ล้านคน
แม้การปราศรัยของพรรคฝ่ายค้านจะสามารถระดมคนได้หลายหมื่นในช่วงเวลา 9 วัน ซึ่งมากกว่าจำนวนคนที่มาฟังการปราศรัยของพรรคพีเอพีเสียอีก แต่นั่นกลับไม่ได้สะท้อนผลเลือกตั้งแท้จริงที่ออกมา
“จากการสุ่มสำรวจของเราตลอดทั้งปีก็พอจะเห็นแนวโน้มอยู่แล้วว่า พีเอพีมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ... แต่ป็อปปูลาร์โหวตที่ออกมาก็สูงจนน่าประหลาดใจ” เดวิด แบล็ก ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแบล็กบ็อกซ์ในสิงคโปร์ กล่าว
บริดเจ็ต เวลช์ นักวิจัยด้านการเมืองเอเชียจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ระบุว่า สิ่งที่ช่วยฟื้นคืนความนิยมให้แก่พรรคพีเอพีได้มากเป็นพิเศษก็คือ “ลี กวนยู เอฟเฟกต์”
“นี่คือชัยชนะอย่างใสสะอาดสำหรับ ลี เซียนลุง เลยก็ว่าได้ สถานะของเขาในคณะรัฐมนตรีจะเข้มแข็งขึ้นไปอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ใช่” ไมเคิล บาร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์สในออสเตรเลีย ซึ่งติดตามการเมืองในสิงคโปร์อย่างใกล้ชิดกล่าว
“นี่ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบเผด็จการเทคโนแครตที่พรรคพีเอพีใช้มาโดยตลอด แม้จะสิ้น ลี กวนยู ไปแล้วก็ตาม”