เอเอฟพี – เรือพิฆาต 2 ลำและเรือดำน้ำ 1 ลำของญี่ปุ่นเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ในวันนี้ (3) ใกล้น่านน้ำพิพาททะเลจีใต้ ซึ่งพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ของปักกิ่งได้ก่อให้เกิดความกังวลไปทั่วโลก
มานิลากำลังพยายามกระชับความสัมพันธ์กับโตเกียวในขณะที่ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นเหนือน่านน้ำพิพาทแห่งนี้ ซึ่งปักกิ่งอ้างสิทธิเกือบทั้งหมด
เรือพิฆาตเจเอสเอริอะเกะ เรือพิฆาตเจเอสเซโตกิริ และเรือดำน้ำโอยาชิโอะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือซุบิคในวันอาทิตย์ (3) ในการเยือนประจำปี ณ อดีตฐานทัพเรือแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ห่างจากสันดอนที่จีนครอบครองอยู่เพียง 200 กิโลเมตร
“การเยือนครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและการพัฒนาความร่วมมือทางทะเลอย่างต่อเนื่องระหว่างกองทัพเรือของสองประเทศเพื่อนบ้าน” น.ท.ลูเอ็ด ลินซูนา โฆษกกองทัพเรือฟิลิปปินส์ กล่าว
เรือพิฆาตอาริอะเกะถูกติดตั้งด้วยเฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือดำน้ำหนึ่งลำ ทั้งนี้อ้างจากช่างภาพของเอเอฟพีในพื้นที่
การเทียบท่าครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าการซ้อมรบระหว่างทหารสหรัฐฯและทหารฟิลิปปินส์ในแดนตากาล็อก ซึ่งถูกมองในฐานะการแสดงให้เห็นถึงความเป็นพันธมิตรทางทหารอันเก่าแก่ที่ฟิลิปปินส์กำลังพึ่งพาอาศัยเพื่อขัดขวางจีน
ด้วยความเหนือกว่ามากด้านกำลังทางทหารของจีน ฟิลิปปินส์จึงหันไปหาพันธมิตรอย่างสหรัฐฯและญี่ปุ่นเพื่อพัฒนากองทัพของตนในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ญี่ปุ่นเห็นพ้องที่จะจัดสรรยุทธภัณฑ์ทางทหารให้กับฟิลิปปินส์ ซึ่งอาจรวมถึงเครื่องบินลาดตระเวนต่อต้านเรือดำน้ำและเทคโนโลยีเรดาร์
ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลกได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้นับตั้งแต่ที่จีนแปรสภาพแนวปะการังพิพาทเป็นเกาะเทียมที่สามารถอำนวยความสะดวกทางทหารได้
นอกจากฟิลิปปินส์แล้ว เวียดนาม บรูไน มาเลเซีย และไต้หวันก็อ้างสิทธิทับซ้อนด้วยเช่นกัน
ญี่ปุ่นและจีนมีความขัดแย้งกันในข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะร้างแห่งหนึ่งในทะเลตะวันออก
ฟิลิปปินส์ร้องขอให้ศาลที่หนุนโดยองค์การสหประชาชาติประกาศให้การอ้างสิทธิทางทะเลของจีนผิดกฎหมายและรัฐบาลคาดหวังว่าจะมีคำตัดสินในปีนี้