เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ไนจีเรียจัดส่งคณะทำงานเดินทางไปยังแคเมอรูนในวันจันทร์ (28 มี.ค.) เพื่อตรวจสอบคำกล่าวอ้างของเด็กหญิงผู้ถูกจับกุมขณะจะปฏิบัติการเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายผู้หนึ่ง ที่ว่าเธอเป็นหนึ่งในนักเรียนหญิง 276 คนซึ่งถูกกลุ่มโบโกฮารัมลักพาตัวไปจากเมืองชิบ็อค ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียเมื่อปี 2014
ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือนก็จะครบรอบ 2 ปีของเหตุการณ์จับตัวประกันอย่างอุกอาจสั่นสะเทือนทั่วโลกคราวนั้น ปรากฏว่ายังมีนักเรียนหญิงของชิบ็อคเป็นจำนวนถึง 219 คนซึ่งหายสาปสูญ โดยที่แทบไม่มีสัญญาณใดๆ เลยว่ารัฐบาลไนจีเรียมีการดำเนินการคืบหน้าไปเพื่อให้พวกเธอเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัว
รัฐบาลไนจีเรียแถลงว่า กำลังจะจัดส่งคณะทำงานไปยังกรุงยาอุนเด เมืองหลวงของแคเมอรูน เพื่อพบกับเด็กหญิงผู้นั้น ซึ่งถูกควบคุมตัวพร้อมกับเด็กหญิงที่จะลงมือปฏิบัติการเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายอีกคนหนึ่ง
คณะทำงานซึ่งมีพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ถูกลักพาตัวรวมอยู่ด้วย จะ “ตรวจสอบดูว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงที่ถูกจับกุม … เป็นหนึ่งในนักเรียนหญิงซึ่งถูกลักพาตัวในชิบ็อคและยังคงหายสาปสูญใช่หรือไม่” การ์บา เชฮู โฆษกของประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี แห่งไนจีเรีย แถลง โดยที่เขาบอกว่า ยังไม่มีความมั่นใจใดๆ ว่าเธอผู้นี้พูดความจริง
“มีความสงสัยกันเกี่ยวกับการกล่าวอ้างนี้ ภายหลังมีข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ จากทางแคเมอรูนซึ่งระบุว่าเด็กหญิงทั้ง 2 คนนี้อายุอยู่ในราว 10 ปี” เชฮู แจกแจง “หนึ่งในสองคนนี้ยังเชื่อกันว่ากำลังอยู่ในอาการเมายาอย่างหนัก ดังนั้นจึงไม่ได้มีสติรู้เนื้อรู้ตัวอย่างสมบูรณ์”
ทั้งสองคนนี้ถูกจับกุมที่บริเวณภาคเหนือของแคเมอรูนในวันศุกร์ (25) ขณะที่แต่ละคนคาดเข็มขัดวัตถุระเบิดที่หนักถึง 12 กิโลกรัม
ข่าวระบุว่าเด็กสองคนนี้ถูกจับภายหลังจากถูกกองกำลังป้องกันตนเองท้องถิ่นในเมืองลิมานี ของแคเมอรูน ซึ่งใกล้ๆ พรมแดนไนจีเรียเรียกให้หยุด โดยที่เมืองลิมานีตกเป็นเป้าหมายโจมตีของการระเบิดฆ่าตัวตายบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ทางด้านกลุ่มรณรงค์เรียกร้อง “เอาเด็กหญิงของเรากลับคืนมา” (Bring Back Our Girls) แถลงในวันอาทิตย์ (27) ว่า รัฐบาลไนจีเรียต้องรีบกระทำการโดยเร็ว เพื่อดูว่าเธอผู้นี้เป็นนักเรียนชิบ็อกที่ถูกลักพาตัวไปจริงหรือไม่
“สำหรับเราแล้ว ถ้าการกล่าวอ้างนี้กลายเป็นความจริงก็จะทำให้เกิดความหวังว่าเด็กหญิงเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่” โฆษก โรติมี โอลาวาเล บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี
“ชุมชนชิบ็อคคาดหวังว่านี่จะเป็นการผ่าทางตัน” โอลาวาเล กล่าว “แต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกว่าต้องทำอะไรอย่างรีบด่วนด้วย เพราะพวกโบโกฮารัมอาจจะกำลังใช้เด็กหญิงเหล่านี้เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย”
อย่างไรก็ตาม โอลาวาเลบอกว่า นักเรียนหญิงจากชิบ็อคที่ถูกโบโกฮารัมจับตาไปนั้น คนที่อายุน้อยที่สุดก็ต้องมีอายุ 16 ปีแล้ว
“ฉันคิดว่ารายละเอียดยังคลุมเครือไม่ชัดเจนเลย” โอลาวาเลกล่าว “เราคาดหมายว่าใน 48 ชั่วโมงข้างหน้ารัฐบาลจะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้”
รวมทั้งหมดแล้ว มีนักเรียนหญิง 276 คนถูกกลุ่มโบโกฮารัมลักพาตัวไปในวันที่ 14 เมษายน 2014 ตอนที่พวกเธอกำลังเตรียมตัวเพื่อสอบปลายปีในเมืองชิบ็อค ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ขณะที่มีเด็กนักเรียนราว 50 คนพยายามหลบหนีออกมาได้สำเร็จ แต่อีก 219 คนยังหายสูญ
โบโกฮารัมซึ่งเวลานี้ประกาศตัวสวามิภักดิ์ต่อกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้ดำเนินการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธตั้งแต่ปี 2009 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสถาปนารัฐอิสลามขึ้นในบริเวณตอนเหนือของไนจีเรีย
ตามรายงานของธนาคารโลก มีผู้ถูกสังหารไปราว 20,000 คนแล้วจากการก่อกบฏของโบโกฮารัมในรัฐบอร์โน ซึ่งเมืองชิบ็อคก็ตั้งอยูในรัฐนี้ และสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 5,900 ล้านดอลลาร์
ถึงแม้ในระยะหลังๆ นี้ พวกกองกำลังอาวุธท้องถิ่น สามารถขับไล่โบโกฮารัมให้ถอยออกไปจากพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย ซึ่งกลุ่มนี้เคยมีอำนาจควบคุมไว้ แต่โบโกฮารัมก็ยังคงดำเนินปฏิบัติการทั้งโดยใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายและทั้งยกกำลังเข้าโจมตีดินแดนของชาติเพื่อนบ้านไนจีเรีย ไม่ว่าจะเป็น แคเมอรูน, ชาด, หรือไนเจอร์