xs
xsm
sm
md
lg

ข้อมูลชี้ ความต้องการก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัวภายในปี 2040

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ / MGR online – ข้อมูลล่าสุดที่ถูกเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.) ระหว่างเวทีการประชุมนานาชาติ “LNG 2016 Congress” ระบุ ความต้องการในตลาดโลกต่อ “ก๊าซธรรมชาติ” จะเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัวภายในปี ค.ศ.2040

อเล็กซ์ โวลคอฟ รองประธานของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ “เอ็กซอน โมบิล” ประจำรัสเซีย เป็นผู้ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างเวทีประชุมซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยระบุ ความต้องการก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นอีก 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2040 ซึ่งจะถือเป็นชนิดพลังงาน ที่มีความต้องการสูงที่สุดเมื่อเทียบกับพลังงานประเภทอื่นๆ

รองประธานของบริษัทพลังงานเอ็กซอน โมบิล ประจำรัสเซียยังระบุด้วยว่า หากแยกพิจารณาเป็นรายชนิด จะพบว่า ก๊าซธรรมชาติเหลวมีแนวโน้มที่จะมีความต้องการจากตลาดโลกสูงที่สุด โดยทีมวิจัยของเอ็กซอน โมบิล ระบุว่า ปริมาณความต้องการก๊าซธรรมชาติเหลวจะมีการเติบโตเร็วกว่าความต้องการก๊าซทั้งหมดราว 2 เท่าภายในปี 2025

ก่อนหน้านี้มีผลการศึกษาที่ระบุว่า ก๊าซธรรมชาติเหลวจะกลายเป็นทรัพยากรพลังงาน ที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าเมื่อถึงปี 2020 ปริมาณความต้องการก๊าซธรรมชาติในตลาดโลก จะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 560,000 ล้านคิวบิกเมตรต่อปี เมื่อเทียบกับปริมาณความต้องการที่ระดับ 296,000 ล้านคิวบิกเมตรของเมื่อปี 2010

ขณะเดียวกัน ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จะกลายเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตของความต้องการพลังงานประเภทก๊าซธรรมชาติมากที่สุด โดยคาดว่า ภูมิภาคนี้จะมีความต้องการก๊าซธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ภายใน 1 ทศวรรษข้างหน้า

เมื่อเดือนกันยายนปี 2014 รัฐบาลจีนประกาศจับมือรัสเซีย ร่วมกันก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติในเขต “ไซบีเรีย” ทางภาคตะวันออกของรัสเซีย ตอกย้ำสายสัมพันธ์สุดแน่นแฟ้นด้านพลังงานระหว่างปักกิ่งและมอสโก

โดยรายงานข่าวจากกรุงมอสโกของรัสเซียซึ่งอ้างการให้สัมภาษณ์ของ นายฉาง เกาลี่ รองนายกรัฐมนตรีจีนในเวลานั้นระบุว่า รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตกลงทำความร่วมมือกับรัฐบาลรัสเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินในการเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติความยาว “เกือบ 4,000 กิโลเมตร” ในเขตไซบีเรีย เพื่อรองรับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลจากรัสเซียไปยังจีนตลอด 30 ปีข้างหน้า

ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงมอสโกเปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติระหว่างรัสเซียและจีนดังกล่าวมีมูลค่ารวมของโครงการสูงกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 159,875 ล้านบาท) และสามารถรองรับการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาวไปยังแดนมังกรได้ถึงปีละ 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 เป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้เมื่อ 21 พฤษภาคมปีเดียวกัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจ “ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และยังเป็นชาติที่มีการ “บริโภคพลังงาน” มากเป็นลำดับต้นๆของโลก ตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในวงเงินมหาศาล 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว “12.95 ล้านล้านบาท”


ทั้งนี้ ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลรัสเซียและจีนระบุว่า กาซปรอม (Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัสเซีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ “รายใหญ่ที่สุดของโลก” ในเวลานี้ จะทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับทางไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (CNPC) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีน ในปริมาณ 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานถึง 30 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น