เอเจนซีส์ - รัฐบาลรัสเซียประกาศทุ่มงบประมาณก้อนโตคิดเป็นวงเงินระหว่าง 60,000-70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.93 ล้านล้านบาท- 2.25 ล้านล้านบาท) เพื่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมในเขต “ไซบีเรีย” ที่เชื่อมต่อกับทวีปเอเชีย หวังรองรับคำสั่งซื้อพลังงานมหาศาลจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
เซอร์เก อิวานอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของวังเครมลิน หรือทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวในวันพฤหัสบดี (10) ระหว่างการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของจีนโดยระบุว่า ประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซีย เตรียมเสนอของบประมาณจำนวนดังกล่าวต่อรัฐสภาแดนหมีขาวในเร็วๆ นี้ เพื่อเดินหน้าโครงการก่อสร้างเครือข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในเขตไซบีเรีย
“โครงการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างรัสเซียและส่วนอื่นๆของเอเชีย โดยเฉพาะจีน” อิวานอฟกล่าว พร้อมเผยด้วยว่าขณะนี้รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศจะขอร่วมลงทุนในโครงการสร้างท่อส่งก๊าซในเขตไซบีเรียของรัสเซียแล้วกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 707,745 ล้านบาท)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเครมลินมีขึ้นหลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ระหว่างมอสโก และปักกิ่ง ที่มีการลงนามไปเมื่อ 21 พฤษภาคม โดยตามข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจ “ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และยังเป็นชาติที่มีการบริโภคพลังงานมากเป็นลำดับต้นๆของโลก ตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในวงเงินมหาศาล 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 12.95 ล้านล้านบาท โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวนี้ครอบคลุมการส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาวสู่แดนมังกรนานถึง 30 ปีเต็ม
ทั้งนี้ ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลรัสเซียและจีนระบุว่า กาซปรอม (Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัสเซีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ “รายใหญ่ที่สุดของโลก” ในเวลานี้จะทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับทางไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (CNPC) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีนในปริมาณ 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี