xs
xsm
sm
md
lg

จับตา!! ปูตินสั่งทหารรัสเซียเริ่มถอนกำลังจากซีเรีย ก่อนเปิดฉากโต๊ะเจรจาสันติภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเผยในวันจันทร์(14มี.ค.) กำลังออกคำสั่งนระหว่างประชุมร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมเมื่อวันจันทร์(14มี.ค.) ให้กองกำลังแดนหมีขาวเริ่มถอนทัพออกจากซีเรีย
รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินเผยในวันจันทร์ (14 มี.ค.) กำลังออกคำสั่งให้กองกำลังของเขาเริ่มถอนทัพออกจากซีเรีย 5 เดือนหลังจากบัญชาการให้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนพันธมิตรอย่างประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ความเคลื่อนไหวที่ฝ่ายต่อต้านมองว่าจะก่อแรงกดดันต่อรัฐบาลดามัสกัสและอาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง

“ผมเชื่อว่าภารกิจที่มอบหมายแก่กระทรวงกลาโหมและกองกำลังรัสเซียได้บรรลุผลทั้งหมดทั้งมวลแล้ว” ปูตินกล่าว ณ วังเครมลินระหว่างประชุมร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่เขาแถลงว่าการถอนกำลังพลจะเริ่มตั้งแต่วันอังคาร (15 มี.ค.) เป็นต้นไป

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินเปิดเผยว่า นายปูตินได้ต่อสายโทรศัพท์ถึงนายอัสซาด เพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการตัดสินใจของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่ถูกแถลงออกมาในวันเดียวกับที่การเจรจาที่มีสหประชาชาติระหว่างคู่ขัดแย้งในซีเรียกลับมาเปิดโต๊ะหารือกันอีกรอบในเจนีวา

ปูตินออกคำสั่งให้ยกระดับความเข้มข้นในความพยายามทางการทูตของรัสเซีย เพื่อบรรลุเป้าหมายข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 ปี คร่าชีวิตผู้คนหลายพันศพและทำให้ประชาชนต้องไร้ถิ่นฐานหลายล้านคน ซึ่งจำนวนมากได้แสวงหาหนทางลี้ภัยในยุโรป

อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัสเซียส่งสัญญาณว่ามอสโกจะยังคงประจำการทหารในซีเรียต่อไป โดยไม่ได้กำหนดเส้นตายการถอนทัพอย่างสมบูรณ์ และบอกว่ากองกำลังของรัสเซียจะยังคงอยู่ที่เมืองท่าตอร์ตูสและฐานทัพอากาศในจังหวัดลาตาเคีย ซึ่งถูกใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเกือบทั้งหมดของมอสโกต่อไป “ฐานทัพเรือในตอร์ตูสและฐานทัพอากาศฮเมย์มิมจะปฏิบัติการตามเดิม พวกเขาต้องพึ่งการปกป้องทั้งทางพื้นดิน ทะเล และอากาศ”

ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติจริงในของคำแถลงของนายปูติน ด้วยมันไม่ชัดเจนว่ารัสเซียจะหยุดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหรือไม่ หรือมอสโกจะยังคงแสนยานุภาพสำหรับดำเนินการดังกล่าวจากฐานทัพอากาศในจังหวัดลาตาเคียหรือเปล่า

ปูตินกู้ชื่อเสียงของรัสเซียในฐานะผู้เล่นสำคัญของนานาชาติที่มีแสนยานุภาพขยายอิทธิพลไปไกลกว่าละแวกใกล้เคียง และบีบให้สหรัฐฯ ต้องตระหนักถึงผลประโยชน์ของมอสโก

อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันก็มีเสียงยอมรับในมอสโกว่าการเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารมากขึ้นรังแต่จะทำให้ผลตอบแทนลดน้อยถอยลง และเจ้าหน้าที่รัสเซียเล็งเห็นว่ามันเป็นไปไม่ได้ในความพยายามดึงการควบคุมเหนือดินแดนซีเรียทั้งหมดคืนสู่นายอัสซาด ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะก้าวเข้าสู่การเจรจาสันติภาพ

“ผลจากการทำงานของทหารของเราได้สร้างเงื่อนไขต่างๆ สำหรับการเริ่มกระบวนการสันติภาพ” ปูตินกล่าว “จากการเข้าร่วมของกองทัพรัสเซีย กองกำลังซีเรียและกองกำลังผู้รักชาติชาวซีเรียสามารถบรรลุจุดพลิกผันในการสู้รบกับก่อการร้ายระหว่างประเทศ ก่อความปั่นป่วนแก่โครงสร้างพื้นฐานของพวกนักรบ และสร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่พวกเขา” ปูตินกล่าว

“เพราะฉะนั้นผมจึงสั่งให้กระทรวงกลาโหมนับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปให้เริ่มถอนกำลังพลหลักของกองทหารของเราออกจากซีเรีย” ปูตินระบุ

ในการส่งสัญญาณเริ่มถอนกำลังทหาร ดูเหมือนว่ารัสเซียจะหวังลดความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับสหรัฐฯ ที่กล่าวหาเครมลินว่าเติมเชื้อไฟความขัดแย้งซีเรียและแสวงหาผลประโยชน์ของตนเอง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามเผยกับรอยเตอร์ว่า ได้เห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับท่าทีของนายปูตินแล้ว แต่บอกว่า “เราคาดหมายทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า”

รัสเซียอ้างว่าพวกเขาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ ทว่าตะวันตกและพันธมิตรกล่าวหาว่าการทิ้งระเบิดส่วนใหญ่ของมอสโกมีเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มกบฏสายกลาง

พวกนักรบฝ่ายค้านกล่าวอ้างว่ารัสเซียมีทหารทางภาคพื้นสู้รบกับกองกำลังต่อต้านนายอัสซาด แต่เครมลินไม่เคยยอมรับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการถอนทหารครั้งนี้ครอบคลุมถึงกองกำลังใดบ้าง

ทำเเนียบประธานาธิบดีซีเรียแถลงว่า ประธานาธิบดีอัสซาดกับประธานาธิบดีปูติน เห็นพ้องทางโทรศัพท์ต่อความเคลื่อนไหวถอนทหารดังกล่าว โดยบอกว่ามันเป็นไปตามข้อตกลงหยุดความเป็นปรปักษ์และสอดคล้องกับสถานการณ์ทางภาคพื้น อย่างไรก็ตาม ทางมอสโกยืนยันว่าจะยังให้การสนับสนุนซีเรียให้การต่อสู้กับก่อการร้ายต่อไป

ด้านฝ่ายค้านของซีเรียในวันจันทร์ (14 มี.ค.) แสดงความยินดีกับคำแถลงของรัสเซีย ระบุถ้าคำยืนยันถอนทหารมีความจริงจังก็จะช่วยเพิ่มแรงกดดันแก่เจ้าหน้าที่ซีเรียและมอบแรงผลักดันแก่การเจรจาสันติภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น