รอยเตอร์ - รัสเซียเรียกร้องในวันอังคาร (1 มี.ค.) ให้ปิดชายแดนระหว่างซีเรียกับตุรกี ระบุอาวุธถูกซุกซ่อนในคาราวานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงยังเป็นช่องทางของพวกนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) กับพันธมิตร
มอสโกซึ่งสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย และมีความสัมพันธ์อันย่ำแย่กับตุรกี นับตั้งแต่อังการายิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน กล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอังการากำลังเตรียมการแทรกแซงทหารข้ามพรมแดนเข้าไปยังซีเรีย
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ในเจนีวา ฉากหลังข้อตกลงยุติความเป็นปรปักษ์ในซีเรีย ที่มีสหรัฐฯ และรัสเซียให้การสนับสนุน ว่า “ภารกิจพิเศษคือตัดการส่งกำลังบำรุงของพวกก่อการร้ายจากภายนอก” อ้างถึงพวกไอเอส กลุ่มนุสราฟรอนต์ และนักรบอื่นๆ
“สำหรับความมุ่งหมายนี้ จำเป็นต้องปิดชายแดนซีเรีย-ตุรกี เนื่องจากแก๊งดังกล่าวได้รับอาวุธข้ามชายแดนแถบนี้ ในนั้นรวมถึงผ่านขบวนรถช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม” นายลาฟรอฟให้ความเห็นต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ข้อตกลงยุติความเป็นปรปักษ์ไม่ได้นับรวมปฏิบัติการทางทหารต่อพวกไอเอส และนุสราฟรอนต์ มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันเสาร์ (27 ก.พ.) “ไม่มีพื้นทีให้ก่อการร้ายและพวกหัวรุนแรงในข้อตกลงหยุดยิงหรือข้อตกลงทางการเมืองใดๆ” ลาฟรอฟกล่าว
รัสเซียเปิดเผยในวันอังคาร (1 มี.ค.) ว่ากองทัพของพวกเขาได้รับแจ้งเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 15 กรณีในซีเรีย ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่เครื่องบินรบของพวกเขาได้ระงับการโจมตีพื้นที่ต่างๆ ที่พวกกบฏสายกลางให้ความเคารพต่อข้อตกลงหยุดยิง
