ซีเอ็นเอ็น - กองทัพอากาศอเมริกาได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 จำนวน 3 ลำเข้าประจำการในเอเชียและแปซิฟิก จากการเปิดเผยของกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (9 มี.ค.) ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดขั้นสูงในคาบสมุทรเกาหลี และในทะเลจีนใต้
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯระบุว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดมูลค่า 1,150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกส่งไปจากฐานทัพอากาศฐานทัพอากาศไวท์แมน มลรัฐมิสซูรี จะร่วมฝึกฝนกับเหล่าสหายและกองทัพอากาศพันธมิตร รวมถึงดำเนินการทดสอบการสื่อสารทางวิทยุกับศูนย์ปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ
การประจำการเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนคราวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดสูงสุดกับเกาหลีเหนือ หลังจากเปียงยางเพิ่งทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) และก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ได้อ้างว่าประสบความสำเร็จในการย่อขนาดหัวรบเทอร์โม-นิวเคลียร์ เพื่อติดตั้งกับขีปนาวุธ
ทั้งนี้ พฤติกรรมก้าวราวขึ้นเรื่อยๆของเกาหลีเหนือมีขึ้นในขณะที่กองกำลังสหรัฐฯ และเกาหลีใต้กำลังซ้อมรบร่วมประจำปีที่มีทหารเข้าร่วมหลายพันนาย และหลังจากโดนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เห็นชอบมติคว่ำบาตรเปียงยางหนักหน่วงกว่าเดิม ฐานทดสอบนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 6 มกราคมและยิงจรวดในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ทางวอชิงตันและพันธมิตรบอกว่าใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธที่ถูกห้าม แต่เปียงยางอ้างว่าเป็นการปล่อยดาวเทียมเพื่อสันติ
“สถานการณ์เมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยังจำเป็นที่จะต้องแสดงแสนยานุภาพทางอากาศที่เชื่อถือได้และต่อเนื่องทั่วภูมิภาคอินโด-เอเชีย-แปซิฟิก” พล.อ.อ.โลรี เจ โรบินสัน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชากำลังรบทางอากาศกองกำลังสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิกระบุในถ้อยแถลง “การประจำการเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์เป็นการรับประกันความสามารถของเราในการแสดงอำนาจ ณ เวลาและสถานที่ที่เราเลือก รวมถึงพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น”
ระหว่างปรากฏตัวในออสเตรเลียเมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.) พล.อ.อ.โรบินสัน เรียกร้องประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยืนกรานถึงสิทธิการบินเหนือทะเลจีนใต้ ท่ามกลางข้อพิพาทกับจีน “เราสนับสนุนทุกฝ่ายในภูมิภาคและทั่วโลกให้บินและล่องเรือในเขตน่านฟ้าหรือน่านน้ำสากลตามธรรมเนียมและกฎระเบียบนานาชาติ” เขากล่าว “เราสนับสนุนทุกประเทศในภูมิภาคให้ดำเนินการแบบเดียวกับที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่”
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอห์น เอส.สเตนนิส และกองเรือคุ้มกันล่องเข้าสู่ทะลจีนใต้ จุดที่มีกองเรือจีนปฏิบัติการอยู่ใกล้ๆ
ทั้งนี้ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 ทั้ง 3 ลำ จะถูกส่งเข้าประจำการที่ไหนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและจะประจำการอยู่ในภูมิภาคนี้นานเท่าใด