xs
xsm
sm
md
lg

ปักกิ่งโวน่านน้ำทะเลจีนใต้ “เสรีที่สุด-ปลอดภัยที่สุด” ย้ำมีสิทธิ์ควบคุมหมู่เกาะเพราะ “ค้นพบก่อนใคร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน
รอยเตอร์ - หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุวันนี้ (8 มี.ค.) ว่า ทะเลจีนใต้ยังคงเป็นน่านน้ำที่นานาชาติสามารถเดินเรือผ่านได้อย่าง “เสรีที่สุด” และ “ปลอดภัยที่สุด” แต่จีนก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะเข้าไปควบคุมหมู่เกาะแถบนี้ เพราะ “ค้นพบ” ก่อนใคร

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาคต่างออกมาวิจารณ์ที่จีนเข้าไปถมทะเลสร้างเกาะเทียมขึ้นในทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก โดยแต่ละปีจะมีสินค้าถูกขนส่งผ่านน่านน้ำแถบนี้เป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

สหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตล่องเข้าไปเฉียดใกล้เกาะเทียมของจีนหลายครั้ง โดยอ้างว่าเป็นการสำแดงเสรีภาพในการใช้น่านน้ำ

การที่สหรัฐฯ ส่งเรือออกลาดตระเวน รวมถึงกระแสข่าวในสื่อตะวันตกที่ว่าจีนส่งระบบขีปนาวุธล้ำสมัย เครื่องบินขับไล่ และระบบเรดาร์ไปไว้บนเกาะเทียม ทำให้ 2 มหาอำนาจมีการปะทะคารมกล่าวหากันไปมาว่าอีกฝ่ายพยายามแสดงอำนาจบาตรใหญ่ทางทหาร

ในการแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นระหว่างที่จีนเปิดประชุมสภาประชาชนประจำปี รัฐมนตรี หวัง อี้ ได้กล่าวว่า เสรีภาพในการเดินเรือนั้นไม่ได้หมายถึงการมี “เสรีภาพที่จะอาละวาดเกเรไปทั่ว” (freedom to run amok)

“ในความเป็นจริงแล้ว ความร่วมมือระหว่างจีนกับอีกหลายประเทศในภูมิภาคได้ทำให้ทะเลจีนใต้เป็นเส้นทางเดินเรือที่ปลอดภัยที่สุด และเสรีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกก็ว่าได้” หวังกล่าว

“จีนเป็นชาติแรกที่ออกสำรวจ ตั้งชื่อ พัฒนา และบริหารจัดการหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ บรรพชนของเราทำงานอย่างแข็งขันที่นี่มานานหลายชั่วอายุคนแล้ว”

“การศึกษาประวัติศาสตร์จะช่วยพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นเจ้าบ้านที่แท้จริง และใครเป็นแค่ผู้มาเยือน”

หวังระบุด้วยว่า ในอนาคตรัฐบาลจีนอาจเชิญผู้สื่อข่าวต่างประเทศมาเยี่ยมชมหมู่เกาะที่จีนดูแลอยู่ หากเงื่อนไขต่างๆ เอื้ออำนวย

หวังยืนยันว่าจีนไม่ได้ส่งอาวุธไปติดตั้งบนหมู่เกาะในทะเลจีนใต้เป็นชาติแรก และไม่ใช่ชาติที่มีอาวุธอยู่ในทะเลจีนใต้มากที่สุดด้วย แต่ก็ไม่กล่าวชัดเจนลงไปว่าหมายถึงชาติใด

การอ้างว่าเป็นเจ้าของน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ทำให้ปักกิ่งต้องขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน และบรูไน

แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยเตือนจีนให้ระวัง “ผลที่จะติดตามมา” จากการดำเนินนโยบายก้าวร้าว ขณะที่สหรัฐฯ ก็พร้อมจะขยายบทบาททางทหารในเอเชีย-แปซิฟิก โดยได้จัดสรรงบประมาณ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับใช้จนถึงปี 2020 เพื่อสนับสนุนภารกิจซ้อมรบและฝึกฝนร่วมกับมิตรประเทศในภูมิภาคที่ไม่พอใจการกระทำของจีน

ผู้สื่อข่าวยังสอบถามหวังเรื่องที่ฟิลิปปินส์ไปฟ้องศาลอนุญาโตตุลาการถาวร (Permanent Court of Arbitration) ที่กรุงเฮกให้ช่วยตัดสินชี้ขาดปัญหาทะเลจีนใต้ ซึ่งหวังก็ตอบว่าจีนมีสิทธิ์ที่จะไม่เข้าร่วมกระบวนการไต่สวน และอ้างว่ามีการใช้อิทธิพลทางการเมืองอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

“ความดื้อแพ่งของฟิลิปปินส์เป็นผลมาจากการถูกยุยงส่งเสริม และการใช้อิทธิพลทางการเมืองชักใยอยู่เบื้องหลัง” เขากล่าวโดยไม่ลงรายละเอียดมากไปกว่านี้

มะนิลาเรียกร้องให้จีนเคารพคำพิพากษาของศาล ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาในช่วงเดือน พ.ค.

รัฐบาลจีนไม่ยอมรับว่าศาลอนุญาโตตุลาการถาวรมีอำนาจตัดสินเรื่องนี้ และยืนกรานให้แก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาทวิภาคีเท่านั้น

กำลังโหลดความคิดเห็น