เอเอฟพี - รัฐบาลออสเตรเลียปฏิเสธอย่างเป็นทางการต่อคำขอของสหรัฐฯ ซึ่งต้องการให้แคนเบอร์ราเพิ่มการสนับสนุนทางทหารต่อภารกิจกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมาออสเตรเลียได้ทุ่มเททรัพยากรให้มากพอสมควรแล้ว
เมื่อเดือน ธ.ค. แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาวิงวอนให้ชาติพันธมิตรซึ่งร่วมมือกับวอชิงตันทำสงครามกับนักรบญิฮาดในอิรักและซีเรีย เพิ่มการสนับสนุนต่อภารกิจนี้มากยิ่งขึ้น หลังเกิดเหตุวินาศกรรมที่กรุงปารีส ซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป 130 คน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ แห่งออสเตรเลียกลับแสดงท่าทีเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ในขณะที่ มารีส เพย์น รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย ก็กล่าวในทำนองว่า สิ่งที่แคนเบอร์ราทำในขณะนี้ก็มากเพียงพออยู่แล้ว
“รัฐบาลออสเตรเลียได้พิจารณาคำร้องขอของรัฐมนตรีกลาโหม แอชตัน คาร์เตอร์ และเห็นว่าเราได้มีส่วนอุทิศทรัพยากรมากพอสมควรแล้ว ทั้งในด้านการฝึกฝนกองกำลังความมั่นคงอิรัก และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ” เพย์น ระบุในถ้อยแถลงวานนี้ (13 ม.ค.)
“รัฐบาลได้แจ้งให้ท่านรัฐมนตรี คาร์เตอร์ ทราบว่า ออสเตรเลียจะยังคงมีส่วนร่วม (ทำสงครามปราบไอเอส) ต่อไปเช่นเดิม”
การประกาศจุดยืนของแดนจิงโจ้มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่ เทิร์นบูลล์ จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อพบปะหารือกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เกี่ยวกับปัญหาการก่อการร้ายและข้อพิพาทดินแดน ระหว่างนั้นผู้นำออสซี่ไปกล่าวปาฐกถาว่าด้วยเรื่องความมั่นคงภายใน ณ ศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์และกิจการระหว่างประเทศ (CSIS) ด้วย
ออสเตรเลียได้ส่งทหารราว 780 นายไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อสนับสนุนภารกิจปราบปรามกลุ่มไอเอสที่มีสหรัฐฯ เป็นตัวตั้งตัวตี ที่ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือกองทัพอิรักมานานหลายเดือนแล้ว
ทหารออสซี่ในอิรักราว 400 นายขึ้นตรงกับหน่วย Air Task Group ซึ่งมีหน้าที่ส่งฝูงบินขับไล่ F/A-18 ฮอร์เน็ตจำนวน 6 ลำออกไปทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายต่างๆ ส่วนอีกราว 300 นายประจำการในกรุงแบกแดดเพื่อฝึกฝนยุทธวิธีให้แก่หน่วยความมั่นคงอิรัก ขณะที่อีก 80 นายเป็นที่ปรึกษาทหารซึ่งคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย
เพย์น ระบุว่า แม้ออสเตรเลียจะยังไม่เปลี่ยนแปลงภารกิจทางทหารในอิรัก แต่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเพิ่มเติมในด้านการขนส่งทางอากาศเพื่อภารกิจด้านมนุษยธรรม