เอเอฟพี /รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - กลุ่มตอลิบานประกาศในวันเสาร์ (5 มี.ค.) จะไม่เข้าร่วมกระบวนการเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลอัฟกานิสถานเพื่อยุติสงครามภายในประเทศที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2001 ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับความพยายามของนานาชาติในการผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพในแผ่นดินอัฟกัน
“เราต้องการเน้นย้ำถึงจุดยืนของเราอีกครั้งว่า เราจะไม่ขอร่วมกระบวนการเจรจาใดๆ ตราบใดที่ยังมีการยึดครองของทหารต่างชาติบนแผ่นดินอัฟกัน ตราบใดที่ชื่อของกลุ่มตอลิบานยังติดอยู่ในบัญชีดำของนานาชาติ และตราบใดที่เพื่อนสมาชิกของเรายังคงถูกจองจำ เราขอย้ำว่าการเจรจาท่ามกลางปัจจัยเหล่านี้จะเป็นการเจรจาที่ไร้ผล” คำแถลงล่าสุดของกลุ่มตอลิบานระบุ
คำประกาศของกลุ่มตอลิบานล่าสุดถือเป็นข่าวร้ายต่อกระบวนการสันติภาพที่รัฐบาลสหรัฐฯ จีน ปากีสถาน และอัฟกานิสถาน กำลังผลักดัน ซึ่งครอบคลุมการจัดเวทีพูดคุยสันติภาพที่กรุงอิสลามาบัดของปากีสถานในสัปดาห์นี้
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะผู้แทนทางการทูตจากทั้ง 4 ชาติได้พบหารือกันที่กรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน โดยคณะผู้แทนฯต่างเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่จะต้องรื้อฟื้นกระบวนการเจรจาสันติภาพขึ้นใหม่ หลังหยุดชะงักไปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ และกองกำลังจากชาติพันธมิตรจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ “นาโต” ตัดสินใจถอนกำลังรบหลักทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานเมื่อเดือนธันวาคมปี 2014 รัฐบาลอัฟกันภายใต้การนำของประธานาธิบดีอัชราฟ กานีก็มีอันต้องเผชิญกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายในประเทศที่เลวร้ายย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง จากการโหมโจมตีและก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มตอลิบาน ที่ล่าสุดสามารถบุกเข้ายึดเมืองคุนดุซ ที่เป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือของประเทศเอาไว้ได้ รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเฮลมานด์ทางภาคใต้
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดตามรายงานขององค์การสหประชาชาติระบุว่า มี “พลเรือน” เสียชีวิตในอัฟกานิสถาน เฉพาะในปีที่แล้วมากกว่า 3,545 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
