ตอลิบานเผยคลาย “ข้อพิพาทตำแหน่งผู้นำ” ได้แล้ว หลังสองคู่ขัดแย้งบรรลุข้อตกลง

รอยเตอร์ – กลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถานระบุว่าข้อพิพาทใหญ่ที่บ่อนทำลายขบวนการของพวกเขาได้รับการแก้ไขแล้ว หลังจากที่บรรดาญาติของ มุลเลาะห์ โอมาร์ อดีตผู้นำที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุน มุลเลาะห์ มันซูร์ ผู้ได้รับเลือกให้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา

รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อญาติของเขาได้โดยตรง แต่ที่ปรึกษาใกล้ชิดบุตรชายของโอมาร์ยืนยันว่า ข้อตกลงดังกล่าวถูกประกาศในพิธีลับภายหลัง มันซูร์ ยอมรับข้อเรียกร้อง 8 ข้อ

“มุลเลาะห์ มันซูร์ ยอมรับข้อเรียกร้องทั้งหมดนี้” ที่ปรึกษารายนี้กล่าว โดยไม่ขอเผยนาม

เงื่อนไขดังกล่าวรวมถึงการปรับโครงสร้างสภาผู้นำและการปกครองด้วยฉันทามติ โฆษกอย่างเป็นทางการของกลุ่มตอลิบาน ตัวแทนมุลเลาะห์ มันซูร์ ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะถูกนำไปปฏิบัติใช้

“มุลเลาะห์ มันซูร์ และกลุ่มของเขาให้สัญญากับพวกเขาว่า สภาชูรา (สภาผู้นำ) จะมีอำนาจในการตัดสินใจมากกว่าตัวบุคคล” โฆษกรายนี้กล่าว

กลุ่มตอลิบานประกาศการเสียชีวิตของ มุลเลาะห์ โอมาร์ ในเดือนกรกฎาคม มากกว่า 2 ปีหลังจากเขาสิ้นใจ ก่อให้เกิดอุปสรรคขวางกระบวนการสันติภาพที่เพิ่งเริ่มต้นกับคาบูลและจุดชนวนความแตกแยกภายในกลุ่มนี้ซึ่งกำลังสู้รบเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอัฟกานิสถานและรื้อฟื้นการปกครองแบบอิสลามเคร่งจารีต

กลุ่มตอลิบานระบุว่า การปกปิดการเสียชีวิตของอดีตผู้นำมีความจำเป็นเพื่อรักษาความเป็นหนึ่งเดียวในเวลาที่กองกำลังนาโตกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานในปี 2014 พวกเขาได้แต่งตั้ง มุลเลาะห์ มันซูร์ ผู้ช่วยคนสนิทของโอมาร์ขึ้นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งอย่างรวดเร็ว

“พวกเรามีเจตนาที่จะปกป้องและรักษาขบวนการนี้ไว้เป็นหนึ่งเดียว” กลุ่มตอลิบานระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อค่ำวันอังคาร (14) บนเว็บไซต์ของกลุ่ม ซึ่งควบคุมโดยผู้สนับสนุนของ มุลเลาะห์ มันซูร์

ถ้อยแถลงดังกล่าวได้อ้างคำพูดของ มุลเลาะห์ อับดุล มานัน น้องชายของโอมาร์ และ มุลเลาะห์ โมฮัมหมัด ยาคูบ บุตรชายคนโตของอดีตผู้นำรายนี้ ขณะประกาศเจตจำนงของพวกเขาที่จะสนับสนุนมันซูร์

“พวกเขาทั้งคู่กล่าวว่ากลุ่มอิสลามเอมิเรตเป็นบ้านโดยส่วนรวมของพวกเขาที่พวกเขาทุกคนอยากจะทำงานร่วมกัน” ถ้อยแลงกล่าวเสริม โดยเรียกกลุ่มตอลิบานด้วยชื่ออย่างเป็นทางการ

กลุ่มตอลิบานถูกกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯโค่นล้มในปี 2011 พวกเขากำลังก่อการกบฏรุนแรงมากขึ้นต่อรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีพลเรือนบาดเจ็บและล้มตายมากเป็นประวัติการณ์ถึงราว 5,000 คนตามการประเมินของยูเอ็น

ชาวอัฟกานิสถานหลายพันกำลังลี้ภัยจากประเทศนี้ไปยังยุโรป นับเป็นหนึ่งในต้นตอของวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2