ฮือฮา! นายพลสหรัฐฯ ถูกทหารอัฟกัน “ยิงดับ” คาสถาบันการศึกษาของกองทัพ-บาดเจ็บนับสิบ

เอเอฟพี - เกิดเหตุทหารอัฟกันชักปืนกราดยิง “นายพล” ของกองทัพสหรัฐฯ เสียชีวิต เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ซึ่งถือเป็นการยิงสังหารโดย “คนใน” กันเองครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในสมรภูมิอัฟกานิสถาน และยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 10 คน รวมถึงนายทหารระดับสูงของเยอรมนี

การสังหาร พล.ต.แฮโรลด์ เจ. กรีน เป็นข่าวสะเทือนขวัญที่ส่งผลกระทบต่อแผนฝึกซ้อมกองกำลังอัฟกันของสหรัฐฯ ก่อนที่ทหารนาโตซึ่งอยู่ทำสงครามกับกลุ่มตอลิบานมานานถึง 13 ปีจะถอนตัวออกไปในช่วงสิ้นปีนี้

กรีน ซึ่งเคยเป็นรองหัวหน้าฝ่ายทหารเกณฑ์ประจำกองบัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ในวอชิงตัน ถือเป็นทหารยศสูงสุดที่ถูกสังหารนับตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ซึ่งครั้งนั้น พล.ท.ทิโมธี โจเซฟ โมด ได้เสียชีวิตจากการที่เครื่องบินโดยสารถูกกลุ่มก่อการร้ายจี้พุ่งชนอาคารเพนตากอน

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ทหารยศนายพลของสหรัฐฯ ถูกฆ่าในเขตสู้รบนับตั้งแต่สงครามเวียดนามสิ้นสุดลง และยิ่งเพิ่มความหวาดระแวงซึ่งกันและกันระหว่างกองกำลังนานาชาติกับทหารอัฟกันที่พวกเขาต้องร่วมงานด้วย

มือปืนซึ่งเป็นทหารอัฟกันถูกปลิดชีพทันควัน หลังจากที่เขาลุกขึ้นกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาโตที่เดินทางไปเยือนมหาวิทยาลัยกลาโหมแห่งชาติจอมพลฟาฮิม ซึ่งตั้งอยู่ที่ชานกรุงคาบูล เมื่อวาน (5)

“เราขอรำลึกถึงและสวดภาวนาแก่ครอบครัวของ พล.ต.แฮโรลด์ เจ. กรีน รวมถึงครอบครัวทหารทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเศร้าสลดในวันนี้” พล.อ.เรย์ โอเดียร์โน ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงเมื่อวานนี้ (5)

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งให้สัมภาษณ์โดยไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า มีผู้บาดเจ็บจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ประมาณ 15 คน เป็นชาวอเมริกัน 8 คน ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ ยังไม่ทราบสัญชาติที่แน่นอน

ล่าสุดกองทัพเยอรมนียืนยันแล้วว่ามีทหารยศนายพลจากเมืองเบียร์ถูกยิงบาดเจ็บด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่กรุงคาบูลเปิดเผยว่ามีทหารอัฟกันได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน

ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่อัฟกันออกมาพูดในทำนองว่า คนร้ายเป็นเพียงชายที่สวมเครื่องแบบทหาร แต่อาจจะไม่ใช่ทหารจริงๆ ทว่าต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสหรัฐฯ ยืนยันว่าผู้ก่อการเป็นทหารในกองทัพอัฟกานิสถาน

สิ่งที่เกิดขึ้นนับว่าเลวร้ายที่สุดในบรรดาเหตุสังหารกันเองโดย “คนใน” ซึ่งทำให้กองกำลังนาโตต้องสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก จากการที่ทหารอัฟกันหันปากกระบอกปืนใส่เพื่อนทหารต่างชาติ

ล่าสุด ยังไม่มีการอ้างความรับผิดชอบจากกลุ่มตอลิบาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตะวันตกระบุว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความเคียดแค้นส่วนตัวและช่องว่างทางวัฒนธรรมมากกว่าจะเป็นแผนของกลุ่มก่อความไม่สงบ