เอเจนซีส์ - มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเต็งหนึ่งของพรรครีพับลิกัน จ่อคว้าชัยชนะขาดลอยในการหยั่งเสียงขั้นต้นแบบคอคัส ที่รัฐเนวาดา เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) ซึ่งจะถือเป็นชัยชนะต่อเนื่องรัฐที่ 3 หลังจากที่ประสบความสำเร็จที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ และ เซาท์แคโรไลนา มาแล้ว และยิ่งเพิ่มโอกาสที่เขาจะคว้าตำแหน่งตัวแทนพรรค เพื่อเข้าสู่สนามชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้
จากนับคะแนนที่ผ่านไปแล้ว 20% พบว่า ทรัมป์ ได้คะแนนโหวตนำมาเป็นอันดับหนึ่ง 44% ส่วนคู่แข่งอย่าง ส.ว. มาร์โก รูบิโอ จากรัฐฟลอริดา และ ส.ว. เท็ด ครูซ จากรัฐเทกซัส ยังคงตามไล่หลังมาห่าง ๆ ด้วยคะแนนโหวตราว 20% ทั้งคู่
“ขอบคุณชาวเนวาดา เราจะช่วยกันทำให้อเมริกาปลอดภัยและยิ่งใหญ่อีกครั้ง” ทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น และฟ็อกซ์นิวส์ คาดการณ์ว่า รูบิโอ จะเข้าวินมาเป็นที่ 2 ด้วยคะแนน 25% ส่วน ครูซ รั้งอันดับ 3 ด้วยคะแนน 22% ขณะที่ผู้สมัครอันดับรอง ๆ ได้แก่ ศัลยแพทย์ เบน คาร์สัน และ จอห์น คาซิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ จะได้คะแนนโหวตไม่เกินตัวเลขหลักเดียว
การหยั่งเสียงรอบนี้ยังมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์สูงเกินความคาดหมาย จนเกรงกันว่าหน่วยเลือกตั้งบางแห่งอาจมีบัตรลงคะแนนไม่พอ
ชัยชนะของ ทรัมป์ ในรัฐนี้ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าคู่แข่งของเขาจะต้องเจอศึกหนักในวันที่ 1 มีนาคม หรือ “ซูเปอร์ ทิวสเดย์” (Super Tuesday) ซึ่งจะมีการหยั่งเสียงพร้อมกันถึง 11 รัฐทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายกันอยู่แล้วว่า เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ฝีปากกล้า คงจะคว้าชัยในรัฐเนวาดาได้ไม่ยาก เพียงแต่ลุ้นว่าใครจะมาเป็นที่สองเท่านั้น
เนวาดาเป็นรัฐที่ 4 ที่พรรครีพับลิกันได้จัดการหยั่งเสียงเลือกผู้แทน ซึ่ง ทรัมป์ นั้นไปพ่ายให้แก่ ครูซ ที่ไอโอวา ซึ่งเป็นรัฐแรก แต่ต่อมาก็สามารถกวาดชัยทั้งที่นิวแฮมป์เชียร์ และ เซาท์แคโรไลนา
แม้ศึกคอคัสที่รัฐเนวาดา จะยังไม่ใช่นัดชี้ชะตา เนื่องจากมีสัดส่วนผู้แทนเพียง 30 คน หรือเพียง 1% เศษ ๆ ของจำนวนผู้แทนพรรครีพับลิกันทั่วประเทศ แต่ก็ถือเป็นการหยั่งเสียงครั้งแรกของรีพับลิกันในภาคตะวันตก และยังเป็นครั้งแรกหลังจากที่ เจบ บุช ได้ประกาศถอนตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เป็นที่คาดหมายว่า ทรัมป์ น่าจะกวาดจำนวนผู้แทนส่วนใหญ่ของรัฐเนวาดา ซึ่งจะทำให้เขามีสัดส่วนผู้แทนพรรคมากกว่า 80 คนก่อนสิ้นเดือน ก.พ.
ผู้สมัครที่หวังจะได้เป็นตัวแทนรีพับลิกันในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีเดือน พ.ย. จะต้องมีผู้แทนพรรคฝ่ายตนไม่น้อยกว่า 1,200 คน ซึ่ง ทรัมป์ ถือว่าเริ่มต้นมาได้ดีพอสมควร