รอยเตอร์ - รัฐบาลซีเรียระบุในวันอังคาร (23 ก.พ.) ว่าได้ยอมระงับปฏิบัติการทางทหารที่ไม่เกี่ยวกับการต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส), กลุ่มอัล-นุสราที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ หรือกลุ่มอื่นที่เกี่ยวกับพวกนี้ ตามแนวทางที่รัสเซียและสหรัฐฯ ได้ตกลงกันไว้
รัฐบาลซีเรียระบุว่า จะยังคงร่วมมือกับทางรัสเซียในการตัดสินใจว่ากลุ่มใดหรือพื้นที่ใดบ้างที่จะถูกรวมไว้ในแผนการหยุดยิงครั้งนี้ ซึ่งจะเริ่มมีผลในวันเสาร์
ในคำแถลง รัฐบาลซีเรียได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปิดชายแดนและยับยั้งการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธของต่างชาติ รวมถึงการป้องกันไม่ให้องค์กรเหล่านั้นมีศักยภาพที่เข้มแข็งขึ้นหรือเปลี่ยนสถานะ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำไปสู่การทำลายข้อตกลงหยุดยิงนี้
อย่างไรก็ตาม คำแถลงระบุด้วยว่า กองทัพซีเรียได้สงวนสิทธิ์ที่จะตอบโต้ต่อการล่วงละเมิดใดๆ ก็ตาม โดยบรรดากลุ่มติดอาวุธที่กระทำต่อประชาชนชาวซีเรียหรือต่อกองกำลังของรัฐบาลซีเรีย
ก่อนหน้านี้ รัสเซียและสหรัฐฯ ประกาศแผนยุติการใช้ความรุนแรงในซีเรีย โดยจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ทว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่ครอบคลุมไปถึงกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) กับกลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนท์ ซึ่งเป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์
“หากข้อตกลงนี้ถูกนำไปปฏิบัติและยึดมั่นอย่างจริงจัง ไม่เพียงจะช่วยลดความรุนแรงลงเท่านั้น แต่ยังเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปถึงมือประชาชนในพื้นที่ซึ่งถูกปิดล้อม และยังส่งเสริมกระบวนการผ่องถ่ายอำนาจไปยังรัฐบาลใหม่ที่ตอบสนองความปรารถนาของชาวซีเรีย” จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ
บัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวชื่นชมข้อตกลงหยุดยิงนี้ว่าเป็น “สัญญาณแห่งความหวังที่รอคอยมานาน” พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามคำพูดที่ให้ไว้
ปูตินยืนยันว่า รัสเซีย “จะทำทุกอย่างที่จำเป็น” เพื่อให้ดามัสกัสเคารพข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้
“เราคาดหวังว่าสหรัฐฯ ก็คงจะทำแบบเดียวกันกับพันธมิตรและกลุ่มที่พวกเขาสนับสนุนอยู่” ปูตินแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์