เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online - ประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนี แห่งยูกันดา ถูกประกาศให้เป็นผู้ชนะในศึกเลือกประธานาธิบดีครั้งใหม่ของประเทศหลังได้คะแนนมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนโหวตทั้งหมด ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านหลักประกาศไม่ยอมรับ “ผลการเลือกตั้งที่ฉ้อฉล” ในครั้งนี้
ผลการเลือกตั้งผู้นำยูกันดาที่ถูกประกาศออกมาล่าสุดที่ออกมาว่า ประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนี เป็นฝ่ายได้คะแนนเสียงเกินกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าผู้นำวัย 71 ปีรายนี้ซึ่งก้าวขึ้นปกครองประเทศโดยการยึดอำนาจเมื่อปี 1986 และถือเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลสหรัฐอเมริการายนี้จะได้ผูกขาดครองอำนาจต่อไป
ด้านคิซซา เบซิกเย ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคการเมือง “Forum for Democratic Change party” ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ กลับได้คะแนนโหวตเพียง 35 เปอร์เซ็นต์ ตามการประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของยูกันดา โดยตัวเขาประกาศจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความฉ้อฉลและกลโกง
รายงานข่าวระบุว่า เบซิกเย ในวัย 59 ปีผู้นำฝ่ายค้านของยูกันดาซึ่งเคยเป็นพันธมิตรทางการเมืองของมูเซเวนีมาก่อนเผยแพร่ถ้อยแถลงดังกล่าวระหว่างถูกกักบริเวณตั้งแต่วันศุกร์ (19) ภายในบ้านพักของตนในย่านชานกรุงกัมปาลา ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ ท่ามกลางการคุมเข้มด้านความปลอดภัยจากตำรวจและทหารของฝ่ายรัฐบาล
การเลือกตั้งประธานาธิบดียูกันดาซึ่งจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี (18 ก.พ.) ที่ผ่านมา ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากคณะผู้สังเกตการณ์จากสหภาพยุโรป (อียู) ถึงความไม่โปร่งใสและไม่เป็นอิสระ ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่ารัฐบาลยูกันดาประกาศปิดเว็บไซต์จำพวกสื่อสังคมออนไลน์ที่ถูกใช้เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้าน
หลังข่าวการสั่งกักบริเวณเบซิกเยเมื่อวันศุกร์ (19) ถูกเผยแพร่ออกไป บรรดาผู้สนับสนุนของเขาต่างแสดงความไม่พอใจและออกมารวมตัวประท้วงตามท้องถนนทั่วกรุงกัมปาลา และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ซึ่งมีการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง ก่อนจะจับกุมผู้เข้าร่วมการประท้วงหลายรายไปสอบสวน
ด้านจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ต่อโทรศัพท์ถึงประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนี ผู้นำยูกันดา โดยระบุรัฐบาลวอชิงตันจะถือว่าความก้าวหน้าของยูกันดาจะต้องถูกผูกติดยึดโยงอยู่กับหลักการประชาธิปไตย และความสำเร็จของการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมย้ำสหรัฐฯ พร้อมร่วมงานกับผู้นำยูกันดาในด้านต่างๆ ต่อไป