เอเจนซีส์ - รัฐบาลเกาหลีใต้ออกมาชี้แจงวานนี้ (14 ก.พ.) ถึงสาเหตุที่ต้องสั่งหยุดการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง โดยระบุว่าเงินค่าจ้างที่จ่ายให้คนงานโสมแดงถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือดึงไปอุดหนุนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์
วันพุธที่แล้ว (10) กรุงโซลประกาศถอนพลเมืองทั้งหมดออกจากเขตอุตสาหกรรมร่วมในเมืองแกซอง ซึ่งมีบริษัทเกาหลีใต้ 124 แห่งเข้าไปตั้งโรงงาน เพื่อลงโทษที่เปียงยางทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 และยิงขีปนาวุธพิสัยไกลซึ่งเป็นการท้าทายคำสั่งห้ามขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
“เงินตราต่างประเทศที่ไหลเข้าสู่เกาหลีเหนือจะถูกถ่ายโอนไปยังพรรคแรงงานเกาหลี ซึ่งจะนำมันไปใช้อุดหนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ หรือไม่ก็ซื้อสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย” ฮอง ยอง-พโย รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์
“เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จ่ายเป็นค่าจ้างแรงงานชาวเกาหลีเหนือจะถูกรัฐบาลยึดไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คนงานเหล่านี้จะได้เพียงคูปองสำหรับนำไปซื้ออาหารหรือข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น และเงินสกุลท้องถิ่นอีกนิดหน่อย”
เขตอุตสาหกรรมร่วมซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเขตแดนเกาหลีเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร ถูกประกาศปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (11) หลังทางการโสมแดงขับไล่ผู้จัดการโรงงานชาวเกาหลีใต้ทั้งหมด และส่งทหารเข้าไปปิดล้อมพื้นที่ไว้
เขตอุตสาหกรรมร่วมแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2004 ตามนโยบาย “ซันไชน์” ของอดีตประธานาธิบดี คิม แด-จุง แห่งเกาหลีใต้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดอง และความร่วมมือข้ามพรมแดน คำสั่งปิดแบบไม่มีกำหนดเช่นนี้จึงโหมกระพือความตึงเครียด และสร้างความเสียหายทางธุรกิจไม่น้อยต่อบริษัทเกาหลีใต้ซึ่งใช้ที่นี่เป็นฐานการผลิต
หลายปีที่ผ่านมาบริษัทโสมขาวจ่ายเงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่หน่วยงานของรัฐบาลเกาหลีเหนือที่ดูแลการจ่ายค่าจ้างแรงงาน 53,000 คนในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เฉพาะในปีที่แล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็มากถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐทีเดียว
ฮองระบุว่า รัฐบาลโซลทราบมานานแล้วว่าเงินค่าจ้างแรงงานถูกทางการเกาหลีเหนือ “ดูด” เอาไปใช้ประโยชน์ทางอื่น แต่ก็ทำใจประคับประคองนิคมอุตสาหกรรมแกซองเอาไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 ชาติ
“แต่โครงการนี้ตกเป็นเครื่องมือถ่ายโอนเงินทุน (ให้แก่รัฐบาลเกาหลีเหนือ) และปัญหาต่างๆ ที่เรากังวลก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข”
นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้แทบไม่เคยได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทระหว่าง 2 เกาหลี ยกเว้นเมื่อปี 2013 ซึ่งเกาหลีเหนือได้ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ จนเป็นชนวนให้สถานการณ์ชายแดนกลับมาตึงเครียดหนัก โดยโสมแดงนั้นไม่พอใจที่เกาหลีใต้แสดงท่าทีข่มขู่ด้วยการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ จึงตัดสินใจตอบโต้ด้วยการถอนแรงงาน 53,000 คน ทำให้นิคมอุตสาหกรรมแกซองถูกปิดไปนานถึง 5 เดือน
