เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้มีคำสั่งระงับการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแดนเกาหลีเหนือตั้งแต่วันนี้ (10 ก.พ.) เพื่อตอบโต้ที่ทางการเปียงยางยิงจรวดพิสัยไกล และทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 4
นับเป็นครั้งแรกที่โซลตัดสินใจสั่งปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซอง หลังจากที่เขตอุตสาหกรรมร่วมแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2004 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดอง และความร่วมมือข้ามพรมแดน
“เราตัดสินใจระงับกระบวนการผลิตทั้งหมดที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง เพื่อไม่ให้เม็ดเงินที่เราลงทุนในเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ถูกนำไปอุดหนุนโครงการพัฒนาขีปนาวุธ และอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ” ฮอง ยอง-พยอ รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติซึ่งกำกับดูแลกิจการข้ามแดน แถลงต่อสื่อมวลชน
เขตอุตสาหกรรมร่วมซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในเขตแดนเกาหลีเหนือราว 10 กิโลเมตรแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งดึงดูดสกุลเงินแข็งให้กับเปียงยาง และช่วยลดภาระค่าจ้างแรงงานในประเทศ
ปัจจุบันมีบริษัทเกาหลีใต้ราว 124 แห่งเข้าไปตั้งฐานการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง กระตุ้นให้เกิดการจ้างแรงงานโสมแดงถึง 53,000 ตำแหน่ง
ฮอง ระบุว่า หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลและภาคธุรกิจของเกาหลีใต้ทุ่มเงินลงทุนกับเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ไปกว่า 1 ล้านล้านวอน แต่ดูเหมือนว่าเม็ดเงินบางส่วนจะถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือดึงเอาไปใช้สร้างจรวดพิสัยไกลและอาวุธทำลายล้างสูง
“รัฐบาลเกาหลีเหนือฉวยโอกาสนำสิ่งที่เราช่วยสนับสนุนพวกเขาไปอุดหนุนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ”
ฮอง บอกด้วยว่า ผู้จัดการโรงงานชาวเกาหลีใต้ 184 คนซึ่งทำงานอยู่ที่เมืองแกซองในวันนี้ (10) จะถูกเรียกตัวกลับประเทศ ซึ่งกรุงโซลได้แจ้งให้เกาหลีเหนือรับทราบแล้ว
“ผมขอวิงวอนให้ประชาชนโปรดเข้าใจการตัดสินใจของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมองจากสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีในขณะนี้”
นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้แทบไม่เคยได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทระหว่าง 2 เกาหลี ยกเว้นเมื่อปี 2013 ซึ่งเกาหลีเหนือได้ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ จนเป็นชนวนให้สถานการณ์ชายแดนกลับมาตึงเครียดหนัก โดยโสมแดงนั้นไม่พอใจที่เกาหลีใต้แสดงท่าทีข่มขู่ด้วยการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ จึงตัดสินใจตอบโต้ด้วยการถอนแรงงาน 53,000 คน ทำให้นิคมอุตสาหกรรมแกซองถูกปิดไปนานถึง 5 เดือน
เกาหลีใต้ได้สั่งจำกัดจำนวนพลเมืองที่จะเดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมแกซองเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่โสมแดงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ซึ่งอ้างว่าเป็น “ระเบิดไฮโดรเจน” เมื่อวันที่ 6 ม.ค.