เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีเหนือและใต้บรรลุข้อตกลงคลี่คลายปัญหาค่าแรงของคนงานโสมแดงในนิคมอุตสาหกรรมแกซองวันนี้ (18 ส.ค.) โดยตกลงที่จะให้มีการปรับขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำอีก 5% ซึ่งเป็นการปิดฉากข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมานานถึง 6 เดือน
ความตกลงครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียด หลังกรุงโซลกล่าวหาว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังกับระเบิดที่ทำให้ทหารโสมขาวซึ่งออกลาดตระเวนบาดเจ็บถึงขั้นพิการ
การขึ้นค่าแรงให้อีก 5% จะส่งผลให้เงินเดือนขั้นต่ำของคนงานโสมแดงในนิคมอุตสาหกรรมแกซองเพิ่มจาก 70.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ (2,505 บาท) เป็น 73.87 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,630 บาท) ต่อเดือน โฆษกกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ระบุ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เปียงยางได้ใช้อำนาจสั่งการฝ่ายเดียวให้เจ้าของธุรกิจในเกาหลีใต้ที่มีโรงงานผลิตสินค้าอยู่ในนิคมอุตสาหรรมแกซองปรับขึ้นเงินเดือนแก่แรงงานเกาหลีเหนืออีก 5.18% ซึ่งเกินกว่าอัตรา 5% ต่อปีที่ตกลงกันไว้แต่ต้น ทำให้รัฐบาลโซลออกมายืนกรานว่าการจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเช่นนี้ต้องมาจากการตัดสินใจร่วมกันทั้งสองฝ่าย
กระทรวงการรวมชาติระบุว่า ผู้แทนทั้งสองฝ่ายตกลงกันวานนี้ (17) ว่าจะหารือเรื่องค่าแรงส่วนที่ขึ้นเกินมา 0.18% ในภายหลัง
นิคมอุตสาหกรรมแกซองซึ่งอยู่ห่างชายแดนเข้าไปในเขตเกาหลีเหนือราว 10 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตสินค้าของบริษัทโสมขาวราว 120 แห่ง และว่าจ้างแรงงานชาวเกาหลีเหนือประมาณ 53,000 คน
นิคมอุตสาหกรรมแกซองก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 ภายใต้นโยบาย “ซันไชน์” ของอดีตประธานาธิบดีคิม แด-จุง แห่งเกาหลีใต้ ซึ่งต้องการฟื้นฟูความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองเกาหลี
เขตอุตสาหกรรมร่วมแห่งนี้เป็นแหล่งดึงดูดสกุลเงินแข็งให้กับรัฐบาลเปียงยาง และช่วยลดภาระค่าจ้างแรงงานในประเทศ ในขณะที่ภาคธุรกิจเกาหลีใต้ก็ได้ประโยชน์จากแรงงานราคาถูก รวมถึงสิทธิพิเศษในการขอกู้เงินหรือลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลโสมขาว
เมื่อเดือนเมษายนปี 2013 เกาหลีเหนือสั่งถอนแรงงานโสมแดง 53,000 คนออกจากโรงงานเพื่อตอบโต้แผนซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ทำให้นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ปิดตัวไปนานถึง 5 เดือน