เอเอฟพี – เกาหลีใต้ประกาศจะลงโทษเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม 3 แห่งที่ยอมขึ้นเงินเดือนให้แรงงานชาวโสมแดงในนิคมอุตสาหกรรมแกซองตามคำขู่ของเกาหลีเหนือ วันนี้ (21 เม.ย.)
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลเปียงยางได้ขอขึ้นค่าแรงคนงานชาวโสมแดงมากกว่า 50,000 คนในโรงงานอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ในเมืองแกซอง ซึ่งห่างจากเส้นพรมแดนเข้าไปในเขตเกาหลีเหนือไม่กี่กิโลเมตร
กรุงโซลนิ่งเฉยกับคำสั่งฝ่ายเดียวของโสมแดง โดยอ้างข้อตกลงฉบับเดิมที่ระบุไว้ชัดเจนว่า การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขจ้างงานต้องเป็นไปโดยความเห็นชอบจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อสถานการณ์ส่อเค้ารุนแรงขึ้น รัฐบาลเกาหลีใต้ก็สั่งห้ามโดยเด็ดขาดไม่ให้เจ้าของโรงงานปฏิบัติตามเงื่อนไขของเกาหลีเหนือ แต่กระทรวงการรวมชาติพบว่ามี 3 บริษัทที่ฝ่าฝืนคำสั่ง และขึ้นเงินเดือนให้พนักงานชาวโสมแดง
“พวกเขาจะต้องได้รับโทษในทางบริหารที่ไปปฏิบัติตามคำสั่งฝ่ายเดียวของเกาหลีเหนือ” เจ้าหน้าที่กระทรวงให้สัมภาษณ์ต่อเอเอฟพี
เปียงยางสั่งให้เจ้าของโรงงานในแกซองขึ้นค่าแรงเฉลี่ยจาก 155 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 164 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน รวมเบี้ยเลี้ยง, สวัสดิการ และค่าล่วงเวลา
นอกจากแรงงานราคาถูกแล้ว บริษัทโสมขาวที่ตั้งโรงงานในแกซองยังมีสิทธิ์กู้เงินและขอลดหย่อนภาษี อีกทั้งรัฐบาลโซลก็ค้ำประกันการลงทุนให้ด้วย
นิคมอุตสาหกรรมแกซองเป็นเขตอุตสาหกรรมร่วมที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 ภายใต้นโยบาย “ซันไชน์” ของอดีตประธานาธิบดี คิม แด-จุง แห่งเกาหลีใต้ และอยู่รอดปลอดภัยมาโดยตลอดไม่ว่าสองเกาหลีจะกระทบกระทั่งกันอย่างไร จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายนปี 2013 ที่เกาหลีเหนือสั่งถอนแรงงานโสมแดง 53,000 คนออกจากโรงงานเพื่อตอบโต้แผนซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ทำให้นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ปิดตัวไปนานถึง 5 เดือน
รายได้มหาศาลที่สูญไปกับการปิดนิคมอุตสาหกรรมยังมีผลต่อสภาพคล่องของโรงงานหลายแห่งมาจนบัดนี้
นิคมอุตสาหกรรมแกซองถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐคอมมิวนิสต์โสมแดง ค่าจ้างทั้งหมดที่จ่ายเป็นสกุลเงินแข็งจะถูกเก็บเข้ารัฐ ส่วนแรงงานจะได้รับค่าเหนื่อยเพียงบางส่วนเป็นเงินวอนเกาหลีเหนือ