ผู้เชี่ยวชาญชี้ชาวโสมแดง “ลี้ภัยยากขึ้น” ตั้งแต่ คิม จอง อึน เป็นผู้นำประเทศ

รอยเตอร์ – การหลบหนีออกจากรัฐคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือต้องเสี่ยงอันตรายและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเดิมเป็น 2 เท่า นับตั้งแต่ คิม จอง อึน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของเปียงยางเมื่อ 3 ปีเศษที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้หลบหนีการกดขี่ลดลง ผู้เชี่ยวชาญและอดีตผู้ลี้ภัยโสมแดงเผย

ชาวเกาหลีเหนือที่ข้ามแดนไปยังจีนเพื่อเดินทางต่อไปตั้งรกรากใหม่ในเกาหลีใต้ลดลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ด้วยรั้วลดหนามที่ถูกติดตั้งไว้ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำถูเหมินซึ่งกั้นพรมแดนจีน-เกาหลีเหนือ จำนวนด่านชายแดนที่เพิ่มขึ้น และการ “ดักฟัง” โทรศัพท์ข้ามประเทศ

ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่จะต้องอาศัย “นายหน้า” ที่เป็นชาวเกาหลีสัญชาติจีน และค่าใช้จ่ายในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวอยู่ที่ราวๆ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหัว (ราว 267,000 บาท) ซึ่งพลเมืองโสมแดงทั่วๆ ไปน้อยนักจะมีปัญญาจ่าย แถมราคานี้ยังไปได้แค่ “จีน” เท่านั้น

“หน่วยข่าวกรองเกาหลีเหนือสอดแนมการใช้โทรศัพท์ข้ามแดนอย่างเข้มงวด พวกโบรกเกอร์เหล่านี้จึงทำงานลำบาก” ฮัน ดอง-โฮ นักวิจัยจากสถาบันการรวมชาติในกรุงโซล ระบุ

“เมื่อมีความเสี่ยงสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายแพงขึ้น เส้นทางสื่อสารกับพวกโบรกเกอร์ที่ชาวเกาหลีเหนือเรียกว่า ไลน์ส ก็ค่อยๆ ขาดหายไป”

มาตรการปราบปรามผู้หลบหนีข้ามแดนนี้ดำเนินไปพร้อมๆ กับนโยบายผ่อยคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ชาวโสมแดงส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีเหตุจูงใจให้หลบหนีไปประเทศอื่นน้อยลง

จากคำบอกเล่าของชาวจีนที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำถูเหมินและภาพถ่ายดาวเทียม รั้วลวดหนามความยาวหลายร้อยไมล์ถูกนำไปติดตั้งริมฝั่งแม่น้ำทั้ง 2 ฟากเมื่อปี 2012

“ตั้งแต่ คิม จอง อึน ขึ้นมาเป็นผู้นำโสมแดง นายหน้าท้องถิ่นหลายคนไม่ยอมเดินทางไปในบางพื้นที่ของฝั่งจีน เพราะเสี่ยงอันตรายมาก” โซกีล พัค จากกลุ่มเสรีภาพในเกาหลีเหนือ (LiNK) ซึ่งทำงานร่วมกับผู้ลี้ภัย กล่าว

ข้อมูลจากกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ ระบุว่า มีชาวโสมแดงอพยพข้ามมาตั้งหลักแหล่งในเกาหลีใต้แล้วทั้งสิ้น 27,810 คน โดยยอดผู้หลบหนีข้ามแดนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งเกิดภัยแล้งครั้งรุนแรงในเกาหลีเหนือ

เมื่อปี 2009 ชาวโสมแดงเดินทางข้ามมายังเกาหลีใต้ถึง 2,914 คน ซึ่งนับเป็นคลื่นผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดลงในปี 1953

อย่างไรก็ตาม เมื่อ คิม จอง อึน ก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศในปี 2012 มีพลเมืองโสมแดงข้ามแดนมาได้เพียง 1,502 คน ลดลงถึง 44 เปอร์เซ็นต์ และในปี 2014 ยอดผู้ลี้ภัยอยู่ที่ 1,396 คน