เอเอฟพี - ผู้นำคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ ชี้การเจรจาเพื่อระงับเหตุสู้รบระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ที่ประสบความสำเร็จได้ในสัปดาห์นี้ ไม่ใช่เพราะทักษะทางการทูต หากแต่เป็นเพราะโสมแดงมี “อาวุธนิวเคลียร์” ที่ทำให้กรุงโซลต้องครั่นคร้าม
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (28 ส.ค.) ว่า ระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการกลาโหมกลางเกาหลีเหนือ (CMC) ผู้นำคิมได้ยกความดีความชอบทั้งหมดให้แก่ฝ่ายโสมแดง ซึ่งสามารถนำพาสองเกาหลีกลับสู่เส้นทางแห่ง “การคืนดี และความไว้เนื้อเชื่อใจกัน”
ข้อตกลงระหว่างผู้แทนทั้งสองฝ่ายที่หมู่บ้านปันมุนจอมในเขตปลอดทหารชายแดน นอกจากจะช่วยหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยอาวุธแล้ว ยังทำให้ทั้งสองชาติเห็นพ้องที่จะเริ่มเจรจาพูดคุยกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำคิมประกาศชัดเจนว่าเรื่องล้มเลิกกิจกรรมนิวเคลียร์ต้องไม่อยู่ในประเด็นเจรจา เพราะโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสันติภาพตั้งแต่ต้น
ข้อตกลงที่หมู่บ้านปันมุนจอม “หาใช่สิ่งที่ได้มาจากการเจรจาไม่ แต่เป็นเพราะความเกรียงไกรของกองทัพเกาหลีเหนือ และอาวุธนิวเคลียร์ที่เรามีไว้ป้องกันตนเอง” คิม แถลงต่อที่ประชุม พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับการเสริมศักยภาพทางทหารเป็นลำดับต้นๆ
วิกฤตการณ์ชายแดนสองเกาหลีครั้งล่าสุดมีชนวนมาจากกรณีที่ทหารเกาหลีใต้ 2 นายเหยียบกับระเบิดขณะออกลาดตระเวนตามแนวชายแดน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อต้นเดือนนี้
กรุงโซลนั้นเชื่อแน่ว่าเปียงยางอยู่เบื้องหลัง จึงตอบโต้ด้วยการเปิดเครื่องขยายเสียงตรงแนวชายแดนเพื่อโฆษณาชวนเชื่อโจมตีระบอบคิม หลังจากที่ไม่ได้กระทำเช่นนี้มานานนับสิบปี
ด้านเกาหลีเหนือก็ยืนกรานไม่รู้ไม่เห็นเรื่องกับระเบิดที่ทำให้ทหารโสมขาวถึงขั้นพิการ พร้อมขู่จะโจมตีหน่วยโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีใต้ หากไม่ยอมปิดเครื่องขยายเสียงเสีย
ผลของการเจรจาที่หมู่บ้านปันมุนจอมทำให้ฝ่ายเกาหลีเหนือยอมแสดงความเสียใจในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ประกาศรับผิดเสียทีเดียว ส่วนเกาหลีใต้ก็ยอมที่จะยุติการโฆษณาชวนเชื่อทันที