รอยเตอร์ - สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิก และอัครบิดรคีรีลแห่งคริสตจักรออร์โธด็อกซ์แห่งรัสเซีย ทรงโอบกอดทักทายกันอย่างอบอุ่น ในการพบปะครั้งประวัติศาสตร์ที่กรุงฮาวานาของคิวบาเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) โดยพระประมุขทั้งสองทรงวิงวอนให้นานาชาติปกป้องชุมชนชาวคริสต์ในตะวันออกกลางซึ่งกำลังตกเป็นเหยื่อของกลุ่มก่อการร้าย
เป็นเวลาเกือบ 1,000 ปีมาแล้วที่คริสตจักรทั้ง 2 สาขาได้แยกออกจากกัน และการพบกันที่สนามบินกรุงฮาวานาครั้งนี้ก็นับเป็นครั้งแรกสำหรับพระสันตะปาปา และอัครบิดรออร์โธด็อกซ์รัสเซีย
“ครอบครัว หมู่บ้าน และเมืองที่พี่น้องชาวคริสต์ของเราอาศัยอยู่ในหลายประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กำลังถูกทำลาย” พระดำรัสร่วมของประมุขทั้งสองระบุ โดยมีนัยยะที่ชัดเจนถึงความรุนแรงที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ เช่น รัฐอิสลาม (ไอเอส) ก่อขึ้น
“โบสถ์ของพวกเขาถูกโจมตีและปล้นชิงอย่างป่าเถื่อน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถูกดูหมิ่น อนุสรณ์สถานต่างๆ ก็ถูกทำลาย”
พระสันตะปาปาและอัครบิดรคีรีลยังทรงเรียกร้องให้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังผู้ลี้ภัยในซีเรียและอิรัก พร้อมแสดงความเสียพระทัยที่ “ชาวคริสต์ต้องอพยพหนีภัยสงครามครั้งใหญ่”
การพบกันระหว่างพระสันตะปาปาและอัครบิดรคีรีลเกิดขึ้นหลังมีการแถลงข่าวออกไปเพียง 1 สัปดาห์ โดยเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากอัครบิดรคีรีลจะเสด็จฯ เยือนคิวบาอยู่แล้ว ส่วนพระสันตะปาปาเองก็ทรงมีหมายกำหนดการเสด็จฯเยือนเม็กซิโกในช่วงเวลาเดียวกัน จึงตัดสินพระทัยแวะพบประมุขคริสตจักรออร์โธด็อกซ์ที่คิวบาเสียก่อน
ขณะที่พระประมุขทั้งสองทรงพระดำเนินจากประตูคนละด้านเข้ามายังห้องรับรองในสนามบินฮาวานา พระสันตะปาปาได้ตรัสทักทายอัครบิดรคีริลว่า “ในที่สุด” และได้ทรงโอบกอดและจุมพิตที่แก้มของกันและกันอย่างอบอุ่น
“เราคือพี่น้องกัน.... นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างชัดเจน”
การพบปะครั้งนี้ยังอาจมีนัยยะทางการเมืองแฝงอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่รัสเซียกำลังบาดหมางกับโลกตะวันตกเพราะความขัดแย้งในซีเรียและยูเครน
คริสตจักรออร์โธด็อกซ์รัสเซียนั้นเข้าข้างรัฐบาลมอสโกเต็มที่ และมอสโกก็เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับคิวบา
การพบกันของประมุข 2 คริสตจักรที่กรุงฮาวานายังนับเป็นโอกาสดีสำหรับประธานาธิบดี ราอูล คาสโตร แห่งคิวบา ซึ่งถูกจับตามองไปทั่วโลก หลังจากที่เปิดบ้านต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเมื่อปีที่แล้ว และยังฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับอริเก่าอย่างสหรัฐฯ โดยได้พบกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่ปานามา เมื่อเดือน เม.ย. ปี 2015
คิวบายังประกาศจุดยืนสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลโคลอมเบียกับกบฏฝ่ายซ้าย เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานถึง 50 ปี
พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงชื่นชมนโยบายของรัฐบาลคิวบาชุดปัจจุบัน โดยตรัสว่า “หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ คิวบาจะกลายเป็นเมืองหลวงแห่งความเป็นเอกภาพ”
“ตอนนี้ที่ยังเหลืออยู่ก็คือ โคลอมเบีย เท่านั้น” คาสโตร ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว หลังจากที่พระสันตะปาปาเสด็จฯ ขึ้นเครื่องบินพระที่นั่งเพื่อเดินทางต่อไปยังเม็กซิโก โดยทรงมีกำหนดการเยือนเป็นเวลา 5 วัน
พระสันตะปาปาฟรานซิสซึ่งทรงเป็นพระประมุขของชาวคริสต์คาทอลิกราว 1,200 ล้านคนทั่วโลก ทรงมีบทบาทสำคัญในการประสานรอยร้าวระหว่างสหรัฐฯ และคิวบา และยังมีพระประสงค์แรงกล้าที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับคริสตจักรออร์โธด็อกซ์ซึ่งแยกตัวจากกรุงโรมไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1054