เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รัฐบาลโคลอมเบียภายใต้การนำของประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ประกาศในวันจันทร์ (17 พ.ย.) ล้มเลิกแผนเจรจาสันติภาพที่ดำเนินมานาน 2 ปีกับ กองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย (FARC) หลังจากกลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายดังกล่าวก่อเหตุลักพาตัวเจ้าหน้าที่ระดับนายพลของกองทัพโคลอมเบีย
การตัดสินใจของผู้นำโคลอมเบียในวันจันทร์ (17) มีขึ้นหลังจากที่พลเอกรูเบน ดาริโอ อัลซาเต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพโคลอมเบียพร้อมผู้ติดตามอีก 2 คนถูกลักพาตัวไปเมื่อวันอาทิตย์(16) ขณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาด้านพลังงานแห่งหนึ่งบริเวณลุ่มแม่น้ำ “อะตราโต” ทางภาคตะวันตกของประเทศ
โดยทหารผู้ติดตามอีกนายหนึ่งซึ่งรอดพ้นจากการถูกลักพาตัวในครั้งนี้มาได้ หลังกระโดดหนีจากเรือของกลุ่มคนร้ายได้แจ้งต่อหน่วยงานต้นสังกัดของตนว่ากลุ่มกบฏ FARC คือผู้ลงมือก่อเหตุอุกอาจนี้ ขณะที่สื่อท้องถิ่นในโคลอมเบียรายงานว่านี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีที่กลุ่มกบฏนิยมซ้ายกลุ่มนี้ก่อเหตุลักพาตัวเจ้าหน้าที่ระดับนายพลของกองทัพโคลอมเบีย
คำแถลงของประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ผู้นำโคลอมเบียระบุว่า การลักพาตัวที่เกิดขึ้นถือเป็นสิ่งที่ “มิอาจยอมรับได้” พร้อมสั่งระงับการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏที่กำลังจะมีขึ้นที่ประเทศคิวบา จนกว่าพลเอกอัลซาเต และผู้ติดตามทั้ง 2 คนซึ่งประกอบด้วยทหาร 1 นายและทนายความที่เป็นสตรีอีก 1 คนจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ
เหตุลักพาตัวที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน กลายเป็น “อุปสรรคชิ้นสำคัญ” ของการเจรจาสันติภาพที่ดำเนินมาด้วยดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยถึงเจตนาที่แท้จริงของกลุ่ม FARC ว่าต้องการวางอาวุธและเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลโคลอมเบียต่อไปหรือไม่ หลังจากที่จับอาวุธทำสงครามกองโจรกับรัฐบาลมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ.1964
