เอเจนซีส์ – รัสเซียเตรียมใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐฯหลังจากวอชิงตันล่าสุดแถลงเพิ่มบทลงโทษมอสโก สั่งขยายขอบเขตมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มอีก 34 รายชื่อที่เป็นทั้งบุคคลและองค์กร กดดันเหตุวิกฤตยูเครนตะวันออก
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้(22)ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯออกแถลงการณ์ในวันอังคาร(22)ว่า “ในวันนี้มาตรการสนับสนุนพันธกิจของวอชิงตันในการพยายามทำให้ วิกฤตยูเครนจะต้องได้รับการแก้ไขผ่านช่องทางการเมือง ด้วยการยังคงการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป”
ด้านเครมลินได้ออกแถลงการณ์โต้ออกมาในวันเดียวกัน โดยประกาศจะวิเคราะห์คำสั่งของวอชิงตัน และจะออกมาตรการออกมาตอบโต้ออกมาภายหลัง
สื่อรัสเซียรายงานว่า โฆษกเครมลิน ดมิทรี เพชคอฟ (Dmitry Peskov) ให้ความเห็นว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯที่ออกในวันอังคาร(22)ประกาศ จะยังคงสถานะ “ความไม่เป็นมิตร” ต่อรัสเซีย ซึ่งสถานภาพเช่นนี้เป็นการทำลายความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศ
“แน่นอนที่สุด ฝ่ายรัสเซียจะพิจารณาและตรวจสอบการตัดสินใจของสหรัฐฯก่อนเป็นอันดับแรก และหลังจากนั้นจึงออกมาตรการตอบโต้ออกมาในภายหลัง” เพชคอฟแถลง
และโฆษกเครมลินยังได้แสดงความเห็นผ่านแถลงการณ์ว่า ถึงแม้ตามสามัญสำนึก และความจำเป็นที่ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกัน แต่กระนั้นทางวอชิงตันยังคงตัดใจตามนโยบาย ที่ขัดแย้งต่อความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงเพิ่มเติมในเรื่องนี้ว่า ความพยายามของวอชิงตันที่จะเข้าครอบงำรัสเซียผ่านมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจนั้น ทางรัสเซียขอประกาศว่า ไม่ทางประสบความสำเร็จ
“สิ่งนี้เหมือนกับคำเปรียบเปรยที่ว่า ทำปืนลั่นใส่เท้าของตัวเอง ในสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียในปัจจุบัน ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ถูกแช่แข็งจากการกระทำของฝ่ายวอชิงตัน” รายงานจากแถลงการณ์ของ เซอร์เก รยาบคอฟ (Sergey Ryabkov) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย
และรยาบคอฟยังกล่าวต่อว่า “และเชื่อว่าความพยายามของฝ่ายสหรัฐฯในความต้องการที่จะมีอิทธิพลเหนือรัสเซียผ่านมาตรการคว่ำบาตรนั้น ไม่ส่งผลอย่างแน่นอน แต่กระนั้นทางฝั่งวอชิงตันยังจะเลือกตัดสินใจจากความเชื่อที่ผิดๆของตนเองต่อไป”
และผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังเสริมต่อว่า ทางรัสเซียจะออกมาตรการที่เหมาะสมเพื่อตอบโต้สหรัฐฯอย่างแน่นอน
RT รายงานเพิ่มเติมว่า ในรายชื่อประกาศถูกคว่ำบาตร นั้นรวมไปถึง รายชื่อบุคคลและหน่วยงานอีก 14 รายชื่อที่มีความเชื่อมโยงกับบุคคลหรือองค์กรที่ถูกสหรัฐฯสั่งคว่ำบาตรก่อนหน้านี้ หรือมีหุ้นมากกว่า 50% ขององค์กรหรือหน่วยงานที่ถูกระบุ
สื่อรัสเซียยังเปิดเผยต่อว่า และยังพบว่ารายชื่อคว่ำบาตรยังรวมไปถึงอีก 6 รายชื่อบุคคลแบ่งแยกดินแดนที่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงยูเครน และอีก 2 รายชื่อเป็นอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครน
นอกจากนี้ยังพบว่า ในการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯ ยังรวมไปถึงอีก 12 รายชื่อที่ได้เปิดกิจการบนคาบสมุทรไครเมีย
RT ชี้ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้ย้ำผ่านแถลงการณ์ว่า การประกาศคว่ำบาตรต่อรัสเซียจะยังไม่ถูกยกเลิกจนกว่าทางรัฐบาลที่ชอบธรรมของยูเครนจะสามารถควบคุมดินแดนที่มีพรมแดนติดรัสเซียอย่างเป็นทางการได้สำเร็จ ชี้ให้เห็นถึงการประกาศไม่ยอมรับของทางวอชิงตันต่อการผนวกคาบสมุทรไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียในเดือนมีนาคม 2014
สื่อรัสเซียรายงานเพิ่มเติมว่า การประกาศคว่ำบาตรรอบใหม่นั้นมีเป้าหมายไปที่บุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักธุรกิจรัสเซีย เกนนาดิมเชนโก (Gennady Timchenko) และ อาร์คาดี (Arkady )และ บอริส โรเทนเบิร์ก (Boris Rotenberg) นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบริษัทอาวุธปืนชื่อดัง เช่น บริษัทคาลาชนิคอฟ คอนเซิร์น (Kalashnikov Concern) และ บริษัท Izhevsky Mekhanichesky Zavod JSC
RT รายงานต่อว่า ในการคว่ำบาตรรอบใหม่ยังมีเป้าหมายครอบคลุมไปที่บริษัทลูกต่างๆที่มีธนาคาร VTB Bank ธนาคาร Sberbank และบริษัทRostec ถือหุ้นมากกว่า 50%
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนสหภาพยุโรปจะเดินตามสหรัฐฯในมาตรการคว่ำบาตร เพราะก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(21) ทางอียูตัดสินใจขยายระยะเวลาการคว่ำบาตรรัสเซียชั่วคราวนานต่ออีก 6 เดือน จากปัญหาวิกฤตยูเครนและการผนวกไครเมีย ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรของอียูที่ออกมายังรวมไปถึงการห้ามให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบันการเงินที่มีรัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ รวมไปถึงบริษัทค้าอาวุธ และบริษัทพลังงานภายใต้การควบคุมของเครมลิน