มาร์เก็ตวอชต์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันอเมริกาปิดบวกในกรอบแคบๆวันศุกร์(20พ.ย.) หลังพบกิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯลดลง ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้น ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ทองคำปรับลดเล็กน้อย
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 40.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลจากเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทสำรวจและขุดเจาะเชื้อเพลิงรายใหญ่ของโลก พบแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯที่ยังปฏิบัติการในสัปดาห์ล่าสุด ลดลง 10 แท่น ถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(20พ.ย.) ขยับขึ้นพอสมควร จากแรงหนุนกลุ่มประกันสุขภาพและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ท่ามกลางความคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 91.06 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.823.81 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.93 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,089.17 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 31.28 จุด (0.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,104.92 จุด
หุ้นกลุ่มประกันสุขภาพปรับขึ้น 0.7 เปอร์เซ็นต์ นำโดยอัลเลอแกน ที่ปิดบวก 3.5 เปอร์เซ็นต์ หลังผู้ผลิตยาแห่งนี้รายงานว่ากฎเกณฑ์ลดภาระการจ่ายเงินภาษีใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงขายกิจการแก่ไฟเซอร์
ในรายงานการประชุมเฟด Minutes ที่เผยแพร่ในวันพุธ(18พ.ย.) ก่อแรงคาดหมายอย่างยิ่งว่าธนาคารกลางแห่งนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามตลาดก็เชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวสามารถตีความหมายได้ว่าเฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวแล้ว
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์(20พ.ย.) ปิดลบในกรอบแคบๆ จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,076.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์