เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี มารีอาโน ราฮอย แห่งสเปนออกมาประกาศชัยชนะ พร้อมยืนยันจะพยายามจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ หลังพรรครัฐบาลอนุรักษ์นิยม “ป็อปปูลาร์ ปาร์ตี” กวาดที่นั่งได้มากที่สุดในศึกเลือกตั้งทั่วไปของแดนกระทิงดุเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ทว่าไม่สามารถกุมเสียงข้างมากในสภาได้
“ผมจะพยายามจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ” ราฮอย กล่าวต่อบรรดาผู้สนับสนุนที่ด้านหน้าสำนักงานใหญ่ของพรรค ป๊อปปูลาร์ ปาร์ตี ในกรุงมาดริด
“เราคงต้องมีการเจรจาพูดคุยกับพอสมควร เพื่อให้ได้ข้อตกลง” เขากล่าวเสริม ในขณะที่เหล่ากองเชียร์ต่างร้องตะโกนคำว่า “สเปน! สเปน!”
พรรคป็อปปูลาร์ ปาร์ตี ได้คะแนนเสียง 28.71% ซึ่งเท่ากับจำนวน ส.ส.เพียง 123 ที่นั่งจากทั้งหมด 350 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร น้อยลงไปถนัดใจเมื่อเทียบตัวเลข ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 186 ที่นั่งในสภาชุดเดิมที่กำลังจะหมดวาระลง และยังต่ำกว่าเกณฑ์ 176 ที่นั่งที่รัฐบาลจะสามารถกุมเสียงเบ็ดเสร็จ
พรรคโซเชียลลิสต์ตามมาเป็นที่ 2 ด้วยจำนวน ส.ส. 90 ที่นั่ง ขณะที่อีก 2 พรรคน้องใหม่อย่างโปเดโมส (Podemos) และซิอูดัดอาโนส (Ciudadanos) ได้คะแนนมาเป็นที่ 3 และ 4 ตามลำดับ
พรรคโปเดโมสได้ที่นั่ง ส.ส. รวมทั้งสิ้น 69 ที่นั่ง ส่วนพรรคซิอูดัดอาโนสกวาดไป 40 ที่นั่ง ซึ่งทำให้การผูกขาดอำนาจโดย 2 พรรคใหญ่อย่าง ป็อปปูลาร์ ปาร์ตี และโซเชียลลิสต์ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ต้องมีอันสิ้นสุดลง
ในส่วนของพรรคโซเชียลลิสต์นั้นถือว่าทำผลงานในศึกเลือกตั้งได้ย่ำแย่เป็นประวัติการณ์ หลังถูกท้าทายจากพรรคโปเดโมส ซึ่งได้กระแสสนับสนุนจากประชาชนที่เบื่อหน่ายมาตรการรัดเข็มขัดและพฤติกรรมคอร์รัปชัน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ราฮอยจะต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมให้ได้ โดยเลือกจับมือกับพรรคโซเชียลลิสต์ หรือไม่ก็โปเดโมส ซึ่งยังมีความเป็นไปได้น้อยทั้ง 2 กรณี
สมเด็จพระราชาธิบดี ฟิลิเป ที่ 6 ในฐานะองค์ประมุขรัฐ จะทรงเสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากที่ทรงมีพระปฏิสันถารกับผู้นำของแต่ละพรรคที่สามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภา
ผู้นำที่ถูกเสนอชื่อจะต้องได้รับการโหวตไว้วางใจจากรัฐสภาเสียก่อน จึงจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้
ในการโหวตครั้งแรก ผู้ที่ถูกเสนอชื่อจะต้องได้รับเสียงสนับสนุน “เกินครึ่ง” จาก ส.ส.350 คน เพื่อที่จะมีอำนาจจัดตั้งรัฐบาล แต่หากทำไม่ได้ก็จะต้องได้เสียง “สนับสนุน” มากกว่า “คัดค้าน” ในการโหวตรอบ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง และนั่นหมายความว่า ผู้ที่ถูกเสนอชื่อมีสิทธิ์จะชนะ หากมีพรรคการเมืองที่ “งดออกเสียง”
ทั้งนี้ หากกระบวนการแต่งตั้งนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลยังฝ่าทางตันไม่ได้ภายใน 2 เดือนหลังจากการโหวตครั้งแรก สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสเปนจะต้องทรงประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่