หุ้นไทยปิดร่วง 16.36 จุด ทิศทางเดียวกับภูมิภาค คาดเป็นเพียงผลกระทบด้าน Sentiment การลงทุนเท่านั้น แนวโน้มยังคงผันผวนต่อ แนะลงทุนระยะยาว และหาจังหวะทยอยซื้อสะสม พร้อมแนะติดตามผลประกอบการ บจ. ไตรมาส 2/58 ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะออกมาต่ำกว่าไตรมาส 1/58
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 ก.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,473.23 จุด ลดลง 16.36 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.10% มูลค่าการซื้อขาย 32,145.05 ล้านบาท โดยภาพรวมในวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ดัชนีแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,482.23 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,470.37 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังผลการลงประชามติของกรีซที่ออกมาว่า “คัดค้าน” มาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่า เป็นเพียงผลกระทบด้าน Sentiment การลงทุนเท่านั้น โดยหากมองถึงปัจจัยพื้นฐานนั้น พบว่า ไทยมีการส่งออกไปยังกรีซในสัดส่วนเพียง 0.06% ของสัดส่วนการส่งออกทั้งหมด 12% ที่ประเทศไทยส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ดังนั้น จึงไม่เป็นผลกระทบมากนักต่อการส่งออกของไทย
ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังต้องติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา ในช่วงนี้ที่หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์ว่า จะออกมาต่ำกว่าไตรมาส 1/58
“ปัญหาเรื่องกรีซนั้นเป็นผลกระทบด้าน Sentiment เพราะหลายๆ ฝ่าย มองว่า อาจจะกระทบต่อการส่งออก แต่หากมาดูจริงๆ แล้ว สัดส่วนการส่งของไทยไปยังกรีซนั้นมีเพียงแค่ 0.06% ก็คงไม่เป็นผลกระทบมากนัก และการที่เกิดปัญหาแบบนี้ ก็ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ก็จะมาช่วยให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก ซึ่งส่งผลให้ส่งออกไปยังสหรัฐฯ น่าจะปรับตัวดีขึ้น สำหรับความกังวลเกี่ยวกับเงินทุนไหลออกนั้นก็คงอาจจะมีแรงขายออกไปบ้าง แต่คงไม่มากแล้ว เพราะปัจจุบันเองเงินทุนต่างชาติที่เหลือในประเทศไทยก็มีไม่มากแล้ว”
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) เชื่อว่า ตลาดจะผันผวนต่อเนื่อง โดยแนะนำนักลงทุนระยะยาว หากดัชนีปรับตัวลดลงไปใกล้ระดับ 1,450 จุด เป็นช่วงเหมาะสมในการทยอยเข้าซื้อหุ้นสะสม โดยให้เลือกหุ้นกลุ่มที่มีอัตราเงินปันผลในระดับสูง พร้อมให้แนวรับ 1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,500 จุด