เอเอฟพี - ตลาดหุ้นในเอเชียพากันกลายเป็นตัวเลขสีแดงในวันจันทร์ (6 ก.ค.) หลังรู้ผลประชามติของชาวกรีซที่ไม่เอามาตรการรัดเข็มขัดของบรรดาเจ้าหนี้ ทำให้ประเทศของพวกเขาเข้าใกล้เส้นทางการออกจากยูโรโซน ขณะเดียวกันตลาดหุ้นจีนก็ผันผวนรุนแรงจนภาครัฐต้องออกมาตรการต่างๆ เข้ามาพยุงตลาด
ที่โตเกียว ดัชนีตลาดหุ้นตกลงไป 2.08 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวน 422.67 จุด ทำให้ตัวเลขอยู่ที่ 20,112.12 จุด ส่วนที่กรุงโซล ตลาดหุ้นร่วงลงไป 2.40 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวน 50.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 2053.93 จุด ทางด้านซิดนีย์ร่วงไป 1.11 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวน 61.60 จุด ดัชนีอยู่ที่ 5,476.70 จุด
สำหรับที่เซี่ยงไฮ้ ดัชนีตลาดหุ้นขยับตัวขึ้นไป 7.82 เปอร์เซ็นต์ตอนเปิดตลาด ก่อนจะร่วงลงมาติดลบเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์เป็นระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงบ่าย แต่พอถึงช่วงหมดวันก็ถีบตัวเพิ่มขึ้น 2.41 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวน 89.00 จุด ดัชนีอยู่ที่ 3,775.91 จุด
ทางด้านฮ่องกง ตลาดหุ้นร่วงลงไป 3.18 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวน 827.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 25236.28 จุด โดยในตอนเปิดตลาดนั้น ตัวเลขมีการขยับขึ้นเล็กน้อยราว 0.70 เปอร์เซ็นต์ เพราะได้รับอานิสงค์จากการเปิดตลาดที่ร้อนแรงในจีนแผ่นดินใหญ่
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนนั้นได้ประกาศมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้น ที่มูลค่าลดลงไปแล้วราว 1 ใน 3 นับตั้งแต่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน
เมื่อวันอาทิตย์ ทางการจีนได้ระบุว่า ธนาคารกลางจะช่วยในเรื่องสภาพคล่องให้แก่ ไชน่า ซิเคียวริตี ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลหนุนหลัง นอกจากนี้คณะกรรมาธิการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนยังบอกด้วยว่า จะไม่มีการออกหุ้นไอพีโอใหม่ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
ขณะที่บรรดาบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ 21 แห่ง ก็ได้ออกมาระบุเมื่อวันเสาร์ว่า พวกเขาจะร่วมกันลงทุนด้วยเงินอย่างน้อย 120 พันล้านหยวน ในการจัดตั้งกองทุนซื้อขายหุ้นบลูชิป
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่การดำเนินการอื่นๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่อาจหยุดยั้งการตกต่ำของตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าตลาดคงไม่ตอบสนองเชิงบวกต่อมาตรการเหล่านี้ โดยเชื่อว่าภาวะตลาดหมีนั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้