เอเอฟพี – ยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกรีซ ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหันในวันนี้(6 ก.ค.) แม้ว่าชาวกรีซจะพร้อมใจโหวต “โน” ไม่เอาเจ้าหนี้ซึ่งถือเป็นชัยชนะเชิงสัญลักษณ์สำหรับรัฐบาลฝ่ายซ้ายของนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส ก็ตาม ในขณะที่ทั่วโลกเฝ้าจับตาท่าทีของธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) ซึ่งถูกมองว่าเป็นสถาบันเดียวที่จะช่วยบรรเทาความตื่นตระหนกของตลาด และปกป้องเศรษฐกิจกรีซไม่ให้ถึงขั้นล้มละลาย
วารูฟากิส ซึ่งเป็นหัวหอกคอยปะทะกับฝ่ายเจ้าหนี้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ได้ทวีตข่าวการตัดสินใจลาออก และโพสต์ข้อความในบล็อกส่วนตัวว่า “หลังจากทราบผลประชามติไม่นาน ผมก็ได้รับแจ้งว่า รัฐมนตรียูโรกรุ๊ปบางคนและหุ้นส่วนอื่นๆ อยากให้ผมหายหน้าไปจากการประชุมของพวกเขาเสียจะดีกว่า”
“นายกรัฐมนตรีมองว่า วิธีนี้อาจจะเป็นผลดีต่อประเทศในการทำข้อตกลงกับยุโรป ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอลาออกจากกระทรวงการคลังตั้งแต่วันนี้ไป”
วารูฟากิส เตือนว่า ผลประชามติต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด “จะมีผลกระทบตามมาอีกมากมาย... ไม่ต่างจากการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิในระบอบประชาธิปไตย”
“ต้นทุนจำนวนมหาศาลที่รัฐบาลได้มาในวันนี้... จะต้องถูกนำไปลงทุนทันที เพื่อให้ได้มาซึ่งการเซย์ “เยส” ต่อทางออกที่เหมาะสม” ซึ่งก็หมายถึง “การปรับโครงสร้างหนี้เก่า มาตรการรัดเข็มขัดที่ผ่อนคลายมากกว่าเดิม การกระจายรายได้สู่ประชาชนที่เดือดร้อนที่สุด และการปฏิรูปทางการคลังที่แท้จริง”
วารูฟากิส ซึ่งมีบุคลิกขวานผ่าซากและพูดจาขึงขัง กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมพร้อมจะยอมรับความเกลียดชังจากเจ้าหนี้ทั้งหลายอย่างภาคภูมิ”
ผลการนับคะแนนซึ่งเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้(6) พบว่า ชาวกรีซที่ใช้สิทธิ์ร้อยละ 61.31 ตัดสินใจโหวต “โน” ไม่ยอมรับแผนรัดเข็มขัดเข้มงวดที่องค์กรเจ้าหนี้เสนอเพื่อแลกกับเงินกู้งวดใหม่
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการลงประชามติ ธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) ตกลงที่จะปล่อยเงินช่วยเหลือสภาพคล่องฉุกเฉิน (Emergency liquidity assistance- ELA) ให้แก่ธนาคารกรีซต่อไปเพื่อพยุงระบบการเงินของเอเธนส์ไว้ แต่หลังจากที่ชาวกรีซครึ่งประเทศพร้อมใจปิดประตูใส่หน้าองค์กรเจ้าหนี้ด้วยการโหวต “โน” ทำให้อีซีบียากที่จะรักษาจุดยืนอุ้มธนาคารกรีซต่อไปได้
เอวอลด์ โนว็อตนี ประธานธนาคารกลางออสเตรียซึ่งเป็นสมาชิกสภาบริหารอีซีบี กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า (3) อีซีบีจะมีการเรียกประชุมในวันนี้(6) เพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“กระแสโหวตโนในกรีซทำให้อีซีบีตกที่นั่งลำบากที่สุด”โฮลเกอร์ ชมีดิง นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารเบเรนเบิร์ก กล่าว
“กรีซผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หากไม่ได้แพ็กเกจช่วยเหลือใหม่มาช่วยให้กรีซพ้นจากภาวะล้มละลายทางการคลังอย่างเต็มรูปแบบ ก็คงยากที่อีซีบีจะปล่อยเงินอุดหนุนสภาพคล่องให้ธนาคารของกรีซต่อไปได้ อย่าว่าแต่เพิ่มวงเงินเลย” ชมีดิง อธิบาย
ขณะนี้ อีแอลเอเป็นแหล่งทุนเพียงอย่างเดียวที่ช่วยพยุงสถานะของธนาคารและเศรษฐกิจกรีซในภาพรวม แต่ในเมื่อแพ็กเกจเงินกู้เดิมของกรีซหมดอายุไปแล้วโดยยังไม่มีชุดใหม่มารองรับ ก็เท่ากับผิดเงื่อนไขที่อีซีบีตั้งไว้สำหรับการจ่ายเงินอุดหนุนสภาพคล่อง
อีซีบีให้คำนิยาม อีแอลเอ ไว้ว่า เป็นแหล่งทุนฉุกเฉินที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศยูโรโซนเบิกจ่ายให้แก่สถาบันการเงินและตลาดที่เผชิญปัญหาขาดสภาพคล่องชั่วคราว “ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และจะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป”
ล่าสุด ไมเคิล ซาแปง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศสได้ออกมาเตือนอีซีบีวันนี้ (6) ว่าอย่าเพิ่งลดปริมาณเงินอัดฉีดสภาพคล่องแก่ธนาคารกรีซ และขอให้เอเธนส์เป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอเข้ามาเองว่าจะแก้ไขวิกฤตหนี้สินอย่างไร