เอเอฟพี - “Portugal Ahead” พรรครัฐบาลผสมกลางขวาของนายกรัฐมนตรีโปรตุเกส เปโดร ปาสซอส โคเอลโญ (Pedro Passos Coelho) ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ (4 ต.ค.) ด้วยคะแนน 38.6% ของผลโหวตทั้งหมด หรือ 104 ที่นั่ง ขาดไป 12 ที่นั่งเพื่อจะครองเสียงข้างมากในสภาที่มีที่นั่งทั้งหมด 230 เสียง หลังสามารถใช้มาตรการรัดเข็มขัดทางการคลังจนสามารถทำให้แดนฝอยทองไม่ต้องตกเป็นรัฐล้มละลาย แต่อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งล่าสุดนี้ผู้นำโปรตุเกสต้องเสียที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (5) ว่า พรรค Portugal Ahead ของนายกรัฐมนตรีโปรตุเกส เปโดร ปาสซอส โคเอลโญ (Pedro Passos Coelho) ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ (4) ด้วยคะแนน 38.6% ของผลโหวตทั้งหมด เอาชนะพรรคฝ่ายค้าน “โซเชียลิสต์ปาร์ตี” ของอดีตนายกเทศมนตรีลิสบอน อันโตนิโอ คอสตาส (Antonio Costas) ที่ได้คะแนนผลโหวต 32.4% หรือ 85 ที่นั่ง ชนะเป็นอันดับ 2 รองจากพรรค Portugal Ahead
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า คอสตาสใช้นโยบายหาเสียงด้วยคำมั่นที่จะผ่อนคลายมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลโปรตุเกสนำมาใช้ก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังผลคะแนนปรากฏผู้นำพรรคสังคมนิยมโปรตุเกสประกาศยอมรับความพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว แต่ปฎิเสธที่จะรับผิดชอบโดยการก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค
“เป็นเพราะพรรคโซเชียลลิสต์ปาร์ตีไม่สามารถบรรลุถึงวัตถุประสงค์ที่วางไว้ได้ ผมพร้อมรับผิดชอบทั้งหมดทั้งด้านการเมืองและในส่วนตัว” คอสตาสกล่าวท่ามกลางผู้สนับสนุนเมื่อวานนี้ (4) กลางกรุงลิอสบอน และเขาแถลงต่อว่า “แต่อย่างไรก็ตาม ผมไม่ลาออก”
ทั้งนี้ โปรตุเกสถือเป็นชาติที่ยากจนที่สุดในยุโรป และในการเลือกตั้งวันอาทิตย์ (4) ถือเป็นเสมือนการลงประชามติอย่างไม่เป็นทางการของมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลผสมกลางขวานำมาใช้ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีอัตราการว่างงานในประเทศสูง และตัวเลขของพลเมืองแดนฝอยทองต้องย้ายออกนอกประเทศเพื่อไปหางานทำมีมากจนน่าตกใจ
แต่อย่างไรก็ตาม พรรครัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี ปาสซอส โคเอลโญ ระหว่างพรรคโซเชียลเดโมแครตส์ (Social Democrats) และพรรค Portugal Ahead ได้ไม่ถึง 116 เสียง จากที่นั่งทั้งหมด 230 เสียงในรัฐสภาแห่งนี้ ทิ้งให้พรรคสายโซเชียลลิสต์ และพรรคเล็กทั้งหลายกวาดที่นั่งเสียงข้างมากไปได้
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า เหลืออีก 4 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรโปรตุเกสที่มาจากผู้ลงคะแนนนอกประเทศ จะมีการลงคะแนนในวันที่ 14 ตุลาคมที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ The Left Bloc พรรคการเมืองฝาแฝดของพรรคไซรีซา (Syriza)ที่มีนายกรัฐมนตรีกรีซ อเล็กซิส ซีปราส ที่มีมาตรการต่อต้านการรัดเข็มขัดทางการคลังเช่นเดียวกัน ได้คะแนนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการก่อตั้งพรรคมาถึง 10.2% ของผลโหวตทั้งหมด หรือ 19 ที่นั่ง สูงกว่าการเลือกตั้งก่อนหน้านั้นที่ได้ไปเพียง 8 ที่นั่ง
เอเอฟพีชี้ว่า ปาสซอส โคเอลโญ ได้หาเสียงด้วยความสำเร็จที่ทำให้โปรตุเกสไม่ต้องล้มละลาย และสามารถกลับไปเริ่มต้นสู่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางได้สำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้โปรตุเกสประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักในประวัติการณ์ และนายกรัฐมนตรีโปรตุเกสยังเตือนว่า พรรคการเมืองสายสังคมนิยมอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังกระเตื้อง ชะงักงันได้
เอเอฟพีรายงานต่อว่า โปรตุเกสสามารถออกจากวิกฤตเศรษฐกิจได้สำเร็จในมิถุนายน 2014 แต่ทว่าความทรงจำของประชาชนถึงมาตรการรัดเข็มขัด และอัตราภาษีแบบก้าวกระโดดยังคงอยู่
แต่กระนั้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังไม่ตกไปถึงประชาชนหาเช้ากินค่ำ เพราะ 1 ใน 5 ของชาวโปรตุเกสยังคงมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนที่รัฐบาลโปรตุเกสกำหนดไว้ หรือในอัตรารายได้ประจำปีไม่เกิน 5,000 ยูโร หรือ 5,600 ดอลลาร์ และเป็นที่น่าแปลกใจที่พบว่าถึงแม้โปรตุเกสจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัด แต่ทว่ากลับไม่พบการประท้วงต่อต้านบนท้องถนนจากประชาชนเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในกรีซ หรือสเปน