เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส ผู้นำรัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซซึ่งเพิ่งได้รับการเลือกตั้งให้กลับเข้ามาครองอำนาจใหม่กล่าวในวันเสาร์ (3 ต.ค.) โดยระบุกรีซมีความจำเป็นต้องยึดมั่นต่อการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวด ตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้ที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ทั้งนี้ก็เพื่อให้กรีซสามารถบรรลุเป้าหมายหลักนั่นคือ การได้กลับเข้าสู่ตลาดการเงินโลกได้โดยเร็ว รวมถึงการได้หลุดพ้นจากการควบคุมตรวจสอบของบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติ
ถ้อยแถลงล่าสุดของนายกรัฐมนตรีซีปราส มีขึ้นระหว่างการกล่าวต่อบรรดาสมาชิกรัฐสภาสังกัดกลุ่มการเมือง “ซีริซา” ของเขาก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ และถ้อยแถลงนี้ถูกมองว่าอาจเป็นความพยายามในการสื่อสารของผู้นำรัฐบาลเอเธนส์ไปยังเจ้าหนี้ต่างประเทศที่จะต้องทบทวนความพร้อมของกรีซ ในการรับเงินช่วยเหลือจำนวน 86,000 ล้านยูโร ที่เห็นชอบไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับความพยายามของกรีซที่ต้องการเปิดการเจรจากับบรรดาเจ้าหนี้เกี่ยวกับการขอ “ลดหนี้”
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซมีเวลาจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้เท่านั้นในการดำเนินมาตรการปฏิรูปแบบขนานใหญ่ทั้งด้านโครงสร้างภาษี ระบบบำนาญ ระบบประกันสุขภาพ ตลอดจน การปฏิรูปในภาคการเงิน และระบบราชการ เพื่อปลดล็อกเงินช่วยเหลือรอบต่อไปจากเจ้าหนี้ 3 ฝ่าย (ทรอยกา) ที่ประกอบด้วยสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) รวมถึงการรับความช่วยเหลือจากต่างชาติในการช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารที่ง่อยเปลี้ยของกรีซ
“การบังคับใช้มาตรการเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราต้องยึดมั่นและปฏิบัติตาม ถึงแม้ว่าเราจะรังเกียจและต่อต้านมันมากเพียงใดก็ตามเพราะนี่คือหนทางเดียวที่เราจำเป็นต้องก้าวเดินต่อไป เพื่อออกจากระบบที่เลวร้ายนี้ซึ่งลิดรอนอธิปไตยทางเศรษฐกิจของเรา ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสให้เราสามารถเริ่มเจรจาสะสางปัญหาหนี้สินกับพวกเจ้าหนี้ได้เสียที” นายกรัฐมนตรีกรีซกล่าว
ก่อนหน้านี้ ซีปราสและกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของเขายึดมั่นในจุดยืนแบบแข็งกร้าวที่ปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัดและการตรวจสอบคุมเข้มจากเจ้าหนี้ต่างชาติอย่างแข็งขันมาโดยตลอด ถึงขั้นประกาศจัดลงประชามติเพื่อปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัด แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาซีปราสได้เปลี่ยนจุดยืนมาสู่การยอมรับมาตรการเข็มงวดของเหล่าเจ้าหนี้มากขึ้น หลังวิกฤตในภาคการเงินของประเทศเลวร้ายย่ำแย่ลง จนต้องมีการสั่งปิดสถาบันการเงินและประกาศใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายเงินทุนและการถอนเงินสดของประชาชน
นักวิเคราะห์ระบุว่า จุดยืนของซีปราสในเวลานี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิกกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของเขาไม่น้อย โดยเฉพาะในหมู่สมาชิกประเภท “ซ้ายสุดโต่ง” แต่ถึงกระนั้นการปรับท่าทีของซีปราสที่ผ่อนคลายมากขึ้นต่อเจ้าหนี้ต่างประเทศก็ถูกมองว่า เป็นสิ่งจำเป็นหากกรีซหวังจะกลับเข้าสู่ตลาดการเงินโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง