รอยเตอร์ - สหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) แสดงความยินดีต่อศึกเลือกตั้งของพม่า ยกให้เป็นชัยชนะของประชาชนแดนหม่อง แต่บอกว่าจะจับตาความคืบหน้าของกระบวนการประชาธิปไตยก่อนจะเปลี่ยนแปลงมาตรการคว่ำบาตรใดๆ
เหล่าผู้สนับสนุนของนางอองซานซูจี แสดงความมั่นใจว่าพรรคของเธอสามารถคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย ในศึกเลือกตั้งทั่วไปที่เปิดเสรีครั้งแรกในรอบ 25 ปี แต่ยังเหลือคำถามว่าจะกวาดที่นั่งได้มากพอสำหรับเลือกประธานาธิบดีและตั้งรัฐบาลหรือไม่
แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แสดงท่าทีระมัดระวังต่อการประกาศชัยชนะถล่มทลาย เนื่องจากการนับคะแนนของศึกเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (8 พ.ย.) ยังไม่เสร็จสิ้น แต่บอกว่าสิ่งต่างๆ ในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าการเลือกตั้งคราวนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า หลัง 50 ปีแห่งยุคเผด็จการทหาร “นี่คือย่างก้าวสู่กระบวนการประชาธิปไตยในพม่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เข้าสู่ส่วนที่ยากแล้ว”
นายรัสเซลกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯ และประชาคมนานาชาติ พร้อมให้การสนับสนุนที่จำเป็นแก่พม่า และการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลปัจจุบันสู่คณะผูับริหารในอนาคตต้องเป็นไปด้วยความน่าเชื่อถือ
กองทัพพม่าเคยบอกว่าทหารจะเคารพผลการเลือกตั้งที่ถูกมองว่าเป็นบททดสอบสำคัญของกระบวนการปฏิรูปประเทศ และนายรัสเซล หวังผู้นำกองทัพพม่าจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้อีกครั้งสัปดาห์นี้ “สหรัฐฯ และผมเชื่อว่าสมาชิกประชาคมนานาชาติอื่นๆ มีความตั้งใจยื้อยุดให้พวกเขาทำตามคำสัญญา เราคาดหมายว่าทหารและเหล่าผู้นำการเมืองของพม่าจะฟังเสียงนี้”
รัสเซลระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะออกแถลงเกี่ยวกับพฤติกรรมโดยรวมของการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (8 พ.ย.) และยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าการเลือกตั้งจะนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ยังเหลืออยู่หรือไม่ “มันเป็นอะไรที่มากกว่าแนวทางการจัดการเลือกตั้ง” เขากล่าว “ก้าวย่างต่อไปเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล เกี่ยวกับการปรองดอง และเช่นกันมันเกี่ยวกับการพาพม่าเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง”