อินดิเพนเดนต์ - ผู้บัญชาการทหารเรือของสหรัฐฯ เตือนในวันอังคาร (15 ธ.ค.) ประเทศทั้งหลายที่มีข้อขัดแย้งในทะเลจีนใต้อาจเข้าสู่บรรยากาศในการแข่งขันการสะสมอาวุธ ขณะที่สิ่งปลูกสร้างทางทหารบนเกาะพิพาทต่างๆ ก็ยิ่งแต่ซ้ำเติมให้สถานการณ์ความตึงเครียดเลวร้ายลงไปอีก
จีน, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ไต้หวัน และบรูไน ล้วนแต่กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำบางส่วน แนวหินปะการังและแนวหินโสโครก ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญและพลุกพล่านมากที่สุดของโลก
ส่วนชาติต่างๆอย่างสหรัฐฯและออสเตรเลีย ได้ส่งเครื่องบินและเรือเข้ายังพื้นที่หวงห้ามรอบเกาะเทียมของจีน เพื่อแสดงออกถึงสิทธิเสรีภาพด้านการเดินเรือในน่านน้ำและน่านฟ้าสากลตามอนุสัญญาสหประชาชาติ
แต่หนังสือพิมพ์แห่งรัฐของจีนฉบับหนึ่งเตือนว่า วอชิงตันควรเตรียมรับมือกับสถานการณที่เลวร้ายและอ้างว่าปักกิ่งไม่หวั่นกลัวที่จะเริ่มสงคราม ต่อกรณีประจำการเรือรบลำหนึ่งใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์ที่ยังมีข้อพิพาท
พล.ร.อ.สกอตต์ สวิฟต์ ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคแปซิฟิก เรียกร้องชาติต่างๆที่เกี่ยวข้องแสวงหาอำนาจชี้ขาดเพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางทะเลดังกล่าว “ความกังวลของผมคือหลังจากมีช่วงเวลาแห่งสันติและความเจริญรุ่งเรืองมาหลายทศวรรษ บางทีเราอาจได้เห็นการหวนกับมาของความกระสับกระส่ายเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในภูมิภาคนี้”
เขากล่าวต่อว่า “ผู้อ้างสิทธิ์หรือไม่ได้อ้างสิทธิ์ต่างกำลังแปรเปลี่ยนส่วนแบ่งขนาดใหญ่ในทรัพย์สมบัติของชาติเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือให้ก้าวล้ำไปไกลเกินความจำเป็นในการป้องกันตนเอง” พร้อมระบุว่า “เครื่องบินและเรือทั้งหลายในน่านน้ำและน่านฟ้าที่อยู่นอกเขตควบคุมของจีน ต่างได้รับคำเตือนที่มากเกินพอดีจากปักกิ่ง”
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเครื่องบินที่มีผู้สื่อข่าวบีบีซีโดยสารไปด้วย ได้รับคำเตือนจากกองทัพเรือจีน ขณะที่มันกำลังบินเข้าใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์ ในความพยายามถ่ายภาพงานก่อสร้างของปักกิ่ง
ในวันเดียวกันนั้นเอง เครื่องบินออสเตรเลียได้บินเข้าไปในพื้นที่และกระจายเสียงข้อความระบุว่านี่คือการแสดงออกถึงสิทธิในการสัญจรในน่านฟ้าสากล ขณะที่ทางกระทรวงกลาโหมของแดนจิงโจ้ยืนยันว่าเครื่องบินของพวกเขาอยู่ระหว่างปฏิบัติการลาดตระเวนทางทะเลเหนือทะเลจีนใต้ตามปกติระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน ถึง 4 ธันวาคม
การกระทำดังกล่าวกระตุ้นให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาตอบโต้ว่า “มีบางประเทศกำลังซ้ำเติมสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคทะเลจีนใต้ ซึ่งในความเป็นจริงคือมันสร้างความสับสนและถือเป็นการแทรกแซง จีนขอคัดค้านเรื่องนี้”
เมื่อถูกถามถึงเรื่องเครื่องบินของออสเตรเลีย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่าประเทศต่างๆ ที่อยู่นอกภูมิภาคควรเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของชาติอื่นๆและไม่ควรจงใจก่อความยุ่งยากซับซ่อนต่อประเด็นนี้ แต่ย้ำว่า “จีนไม่มีปัญหากับสิทธิเสรีภาพในการล่องเรือหรือบินในทะเลจีนใต้”