เอเอฟพี / รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online – กลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาในฟิลิปปินส์ ประกาศในวันอังคาร (15 ธ.ค.) หยุดยิงเป็นระยะเวลา 12 วันในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พร้อมสั่งยุติการโจมตีทุกรูปแบบต่อเป้าหมายที่เป็นทหารกองทัพฟิลิปปินส์ รวมถึง ธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ ของภาคเอกชน
กลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายที่เรียกตัวเองว่า กองทัพประชาชนใหม่ (New People's Army) ซึ่งมีนักรบในสังกัดราว 3,000 คนและมีการเคลื่อนไหวอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วภาคตะวันออกและภาคใต้ของฟิลิปปินส์ประกาศหยุดยิงแบบฝ่ายเดียว ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคมปีนี้ จนถึงวันที่ 3 มกราคมปีหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ได้เฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
การประกาศหยุดยิงแบบฝ่ายเดียวของกลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาในฟิลิปปินส์กลุ่มนี้ ได้รับการยืนยันในเวลาต่อมาโดยหลุยส์ ฮาลันโดนี อดีตบาทหลวงคาทอลิกชื่อดังซึ่งมีฐานอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และปัจจุบันรับหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพของฝ่ายกบฎ
โดยฮาลันโดนีเปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกจากการหยุดยิงดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ ได้ฉลองกับครอบครัวในช่วงเวลาแห่งความสุขในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่แล้ว ช่วงเวลาหยุดยิงนาน 12 วันดังกล่าว ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักรบของกองทัพประชาชนใหม่ได้ร่วมกิจกรรมการครบรอบ 47 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งฟิลิปปินส์ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเบนินโญ “นอยนอย” อากิโน ยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อการประกาศหยุดยิงนาน 12 วันช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ของกลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมากลุ่มนี้ ที่ได้เปิดการเจรจาสันติภาพที่ไม่มีความคืบหน้ามากนักกับรัฐบาลมะนิลามาตั้งแต่ปี ค.ศ.1986 โดยมีรัฐบาลนอร์เวย์ทำหน้าที่เป็น “คนกลาง”
ก่อนหน้านี้ ทางการฟิลิปปินส์เปิดการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธชื่อก้องอย่าง แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามิกโมโร (Moro Islamic Liberation Front : MILF) ซึ่งถือเป็นกลุ่มกบฏมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศคาทอลิก โดยเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติความขัดแย้งและการสู้รบ ที่ดำเนินมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษและคร่าชีวิตผู้คนในแดนตากาล็อกไปแล้วมากกว่า 120,000 ราย