เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online – รัฐบาลฟิลิปปินส์เผชิญความท้าทายครั้งสำคัญ ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับบรรดาผู้นำเขตเศรษฐกิจจากทั่วเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงผู้นำจากสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่จะตบเท้าเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งเอเชีย-แปซิฟิก หรือการประชุม “APEC summit” ที่กรุงมะนิลาในระหว่างวันที่ 18 -19 พ.ย. นี้ โดยความท้าทายดังกล่าวยิ่งเพิ่มทวีเป็นหลายเท่าตัว หลังเกิดเหตุก่อวินาศกรรมหลายจุดทั่วกรุงปารีสของฝรั่งเศส เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเบนินโญ “นอยนอย” อากิโน ที่กำลังจะหมดวาระ สั่งระดมกำลังทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของฝ่ายพลเรือนมากกว่า 30,000 คน เข้าทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศ ที่กำลังจะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด “APEC summit” ระหว่างวันพุธ (18) – วันพฤหัสบดี (19) นี้
นอกเหนือจากการดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วกรุงมะนิลาแล้ว กองกำลังผสมด้านความมั่นคงดังกล่าวของฟิลิปปินส์ที่มีจำนวนมากกว่า 30,000 คน ยังต้องรับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับบรรดาผู้นำของ 21 เขตเศรษฐกิจ ที่เป็นสมาชิกกลุ่มความร่วมมือเอเปก ตลอดจนเหล่าผู้ติดตาม ส่งผลให้การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด APEC summit คราวนี้กลายเป็นปฏิบัติการด้านความมั่นคงที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ในรอบหลายปี เช่นเดียวกับภารกิจในการรับเสด็จและถวายความปลอดภัยเมื่อครั้งที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงเสด็จฯเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา
ด้าน ริการ์โด มาร์เกซ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ออกมาเปิดเผยว่า กองกำลังผสมด้านความมั่นคงของตนมีความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามในทุกรูปแบบ ซึ่งรวมถึง การก่อการร้าย ตลอดจนภัยธรรมชาติอย่างพายุไต้ฝุ่น พร้อมเผยมีการออกคำสั่งห้ามประชาชนในกรุงมะนิลาที่มีใบอนุญาตถือครองอาวุธปืน พกพาอาวุธในครอบครองของตนออกนอกเคหสถานตลอดทั้งสัปดาห์นี้ รวมถึงมีการสั่งห้ามจัดการเดินขบวนหรือการประท้วงในทุกรูปแบบ ใกล้กับสถานที่จัดการประชุมในกรุงมะนิลา
หลังจากที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสถูกก่อวินาศกรรมจากสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายที่คาดว่าจะเป็นสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 129 รายเมื่อคืนวันศุกร์ (13 พ.ย.) ที่ผ่านมา ทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญต่างๆทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีคำสั่งให้กำลังตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 160,000 คน และทหารอีก 125,000คน เตรียมความพร้อมในระดับสูงสุดเพื่อรับมือเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจากหลายสำนักแสดงความกังวลว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของฟิลิปปินส์ซึ่งได้ชื่อว่ามีงบประมาณสนับสนุนต่ำเตี้ยที่สุดชาติหนึ่งในเอเชีย อาจประสบปัญหาในการรับมือภัยคุกคามจากบรรดากลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายและนักรบอิสลามิสต์กลุ่มต่างๆ ที่อาจเคลื่อนไหวและก่อเหตุรุนแรง ในช่วงที่มีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกในกรุงมะนิลา