เอเอฟพี - แมนนี ปาเกียว ตำนานนักชกชาวฟิลิปปินส์ ยอมรับในวันพฤหัสบดี (28 เม.ย.) รู้สึกช็อกต่อคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน ที่ว่าพวกนักรบอิสลามิสต์ (ไอเอส) มีแผนลักพาตัวเขา พร้อมระบุเรื่องแบบนี้ไม่ควรป่าวประกาศต่อสาธารณชน
ประธานาธิบดี อากีโน เผยแพร่ถ้อยแถลงในวันพุธ (27 เม.ย.) ว่า อาบูไซยาฟ แก๊งลักพาตัวเรียกค่าไถ่ที่โด่งดัง ที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มไอเอสและเพิ่งฆ่าตัดศีรษะตัวประกันชาวแคนาดาไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ มีแผนลักพาตัวปาเกียวและลูก ๆ ของเขา
“ผมรู้สึกตกใจตอนที่เขาแถลงว่าอาบูไซยาฟต้องการลักพาตัวผม ผมประหลาดใจ เพราะชาวฟิลิปปินส์ทุกคนคือเพื่อนของผม ผมรักพวกเขา โดยเฉพาะชาวมุสลิม” ปาเกียวให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักในมะนิลา
ปาเกียว เผยว่า เขาตอบสนองคำแถลงของอากีโน ด้วยการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ในการปกป้องตนเอง รวมถึงภรรยาและลูก ๆ ทั้ง 5 คน ซึ่งพักอาศัยอยู่ในเจเนรัล ซานโตส บ้านเกิดของเขา “เราเพิ่มการรักษาความปลอดภัยแก่ครอบครัวและตัวผมเอง”
ป้อมปราการหลักของกลุ่มอาบูไซยาฟ อยู่ห่างจากเจเนรัล ซานโตส ไปราว ๆ 400 กิโลเมตร ส่วน ปาเกียว ตอนนี้อยู่ในกรุงมะนิลา ห่างจาก เจเนรัล ซานโตส ไปทางเหนือมากกว่า 1,000 กิโลเมตร เพื่อหาเสียงลุ้นชิงเก้าอี้วุฒิสภาในศึกเลือกตั้งทั่วไปในเดือนหน้า
ปาเกียว บอกว่า เขาสับสนกับถ้อยแถลงของอากีโน เนื่องจากเขาไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อนเลย ก่อนที่ประธานาธิบดีรายนี้จะออกมาพูดต่อสาธารณชนถึงแผนลักพาตัวดังกล่าว “หากมันเป็นรายงานข่าวกรอง มันก็ควรถูกปิดเป็นความลับและไม่จำเป็นต้องแถลง และทำไมต้องเป็นตอนนี้ เราต้องศึกษากันต่อไป”
ว่ากันว่า อาบูไซยาฟ มีสมาชิกติดอาวุธจำนวนไม่กี่ร้อยคน แต่พวกเขาควบคุมตัวประกันชาวต่างชาติไว้มากกว่า 20 คน ในนั้นรวมถึงชาวอินโดนีเซีย 18 คน และเหล่ากะลาสีชาวมาเลเซียที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว
อากีโน บอกด้วยว่า พวกนักรบยังขู่ฆ่าเขาและลักพาตัวน้องสาว ซึ่งเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ในความพยายามสร้างความพึงพอใจแก่ไอเอสและระดมทุน
ปาเกียว ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ บอกว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวมุสลิมในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงตกเป็นเป้าหมาย “ผมไม่เชื่อว่าพี่น้องมุสลิมของเขาจะทำเช่นนั้น เราสนับสนุนพวกเขา เรามอบความเป็นอยู่แก่พวกเขา ดังนั้น ผมเลยไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน”
ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไม่ได้แสดงความคิดเห็นโดยตรงต่อเสียงคร่ำครวญของปาเกียวต่อกรณีที่เขาไม่เคยได้รับแจ้งเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างแผนลักพาตัว ก่อนที่ นายอากีโน จะแถลงต่อสาธารณชน “สิ่งที่รัฐบาลทำและจะทำต่อไป ก็คือ ใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองของเราและทลายการกระทำก่อการร้าย ข่มขู่และทำลายเสถียรภาพ”