เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกประกาศเตือนภัยประชาชนเรื่องพายุไต้ฝุ่นคอปปุ (Koppu) ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน คลื่นพายุซัดฝั่ง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากตลอดช่วง 3-4 วันข้างหน้า
สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ ระบุว่า ไต้ฝุ่นคอปปุซึ่งเป็นพายุที่มีกำลังแรงอันดับ 2 ที่ซัดถล่มแดนตากาล็อกในปีนี้ จะพัดเข้าสู่ชายฝั่งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (18 ต.ค.) และคาดว่าจะกินเวลาอย่างน้อย 3 วันกว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนพ้นหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในวันอังคาร (20)
เอสปี คายานัน ผู้อำนวยการสำนักอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า ไต้ฝุ่นคอปปุซึ่งมีความเร็วลมรอบจุดศูนย์กลางถึง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจทวีกำลังแรงขึ้นอีกเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่ง และเมื่อปะทะเข้ากับมวลสภาพอากาศที่รุนแรงใกล้เคียง จะทำให้ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนผ่านตอนเหนือสุดของเกาะลูซอนไปอย่างช้าๆ
“พายุลูกนี้อาจอยู่ในภาวะกึ่งนิ่ง (semi-stationary) เมื่อพัดขึ้นฝั่ง” เธอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ไต้ฝุ่นคอปปุซึ่งเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ด้วยความเร็วเพียง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้เกิดฝนตกหนักในจังหวัดออโรราทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ ก่อนจะเคลื่อนไปทางทิศเหนือของเกาะลูซอน และออกสู่ทะเลในที่สุด
แม้กรุงมะนิลาจะไม่ได้อยู่ในเส้นทางพายุโดยตรง แต่ คายานัน ชี้ว่าศูนย์กลางของไต้ฝุ่นลูกนี้มีความกว้างมาก จนแม้แต่ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ก็อาจเกิดฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรง
เธอเตือนว่า พื้นที่ที่ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนผ่านจะมี “ฝนตกหนักถึงหนักมาก” และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งความแรงเทียบเท่า “สึนามิ”
สำนักงานป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายทะเลให้ระวังอันตรายจากคลื่นพายุซัดฝั่งที่อาจสูงถึง 14 เมตร พร้อมประกาศให้เรือทุกชนิดงดออกจากฝั่ง คิดเป็นพื้นที่กว่าครึ่งประเทศ
ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำได้รับคำแนะนำให้อพยพ ก่อนที่จะเกิดอันตราย
“ถ้ามีประกาศเตือนให้อพยพ เราก็ขอวิงวอนให้ท่านปฏิบัติตามด้วย” อเล็กซานเดอร์ ปามา หัวหน้าสำนักงานป้องกันความเสี่ยงและจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ แถลง พร้อมแนะให้ประชาชนงดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ด้านประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่า ไต้ฝุ่นคอปปุอาจจะสร้างความเสียหายรุนแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากฝนที่จะตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน
หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญพายุเฉลี่ยปีละ 20 ลูก และส่วนใหญ่เป็นพายุที่มีความรุนแรง