xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียโชว์ของ!! ยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำเป็นครั้งแรก ถล่มคลังแสง-โรงน้ำมัน IS (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



รอยเตอร์/เอเอฟพี - รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ซอยกู เปิดเผยในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถล่มเป้าหมายต่าง ๆ ของรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียเป็นครั้งแรกแล้ว ระบุก่อความเสียหายร้างแรงแก่คลังแสง และสาธารณูปโภคน้ำมัน ขณะที่อีกด้านหนึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะเปิดประชุมอย่างไม่เป็นทางการตามคำขอของมอสโกต่อปฏิบัติการทางทหารของตุรกี ในอิรัก และซีเรีย

“เป้าหมายคือที่มั่นขนาดใหญ่ 2 แห่งของพวกก่อการร้ายภายในพื้นที่เมืองรักกา” ชอยกู บอกกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างการหารือที่มีการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ พร้อมระบุว่าขีปนาวุธคาลิเบอร์ถูกยิงออกจากเรือดำน้ำรอสตอฟ-ออน-ดอน “เราสามารถพูดด้วยความเชื่อมั่นอย่างที่สุดว่ามันก่อความเสียหายร้ายแรงแก่คลังอาวุธ และโรงงานแห่งหนึ่งที่ใช้สำหรับผลิตกับระเบิด และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมัน”

ชอยกู บอกว่า ได้แจ้งให้อิสราเอล และสหรัฐฯ ให้ทราบล่วงหน้าแล้วถึงแผนการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ พร้อมเผยว่า ช่วง 3 วันที่ผ่านมา กองทัพอากาศรัสเซียยังได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนือท้องฟ้าซีเรียกว่า 300 เที่ยว และถล่มเป้าหมายต่าง ๆ มากกว่า 600 เป้าหมาย โดยมีเครื่องบินขับไล่คอยอารักขาเครื่องบินทิ้งระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของปูตินด้วย

รัสเซียเริ่มแทรกแซงโดยตรงในสงครามกลางเมืองของซีเรียในช่วงสิ้นเดือนกันยายน ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสนับสนุนพันธมิตรอย่างประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แต่การแทรกแซงก่อผลที่ไม่เคยคาดหมายไว้ โดยเฉพาะกรณีตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของพวกเขาตกตามแนวชายแดนซีเรีย โดยอ้างว่ามันล่วงล้ำน่านฟ้า ข้อกล่าวหาที่มอสโกปฏิเสธ

อีกด้านหนึ่งการที่ตุรกีส่งทหารติดอาวุธหนักเข้าประจำการ ณ ค่ายแห่งหนึ่งใกล้แนวหน้าติดกับเมืองโมซุล ก็กลายเป็นอีกหนึ่งในข้อถกเถียงกลางสงครามต่อต้านไอเอส ที่ดึงชาติมหาอำนาจโลกส่วนใหญ่ลงสู่สมรภูมิรบ
รัสเซียยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถล่มเป้าหมายต่างๆของรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรียเป็นครั้งแรก
รัสเซียซึ่งโกรธแค้นตุรกีอยู่ก่อนแล้ว ตามหลังเครื่องบินรบอังการายิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของพวกเขาตกระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียเมื่อเดือนก่อน มองว่า การปรากฏตัวของทหารตุรกีในอิรักนั้นผิดกฎหมาย แต่อังการาบอกว่าทหารของพวกเขาถูกส่งเข้าไปเพื่อช่วยฝึกกองกำลังอิรัก

ในเรื่องนี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะเปิดหารืออย่างไม่เป็นทางการตามคำร้องขอของรัสเซียในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ต่อปฏิบัติการทางทหารของอังการาในอิรัก และซีเรีย โดยการประชุมลับคราวนี้จะมีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนคณะมนตรีความมั่นคง 15 ชาติ นั่งเป็นประธาน

“เราต้องการให้เลขาธิการบอกกับเราว่าเกิดอะไรขึ้นในภูมิภาคนี้ ปีเตอร์ อิลิเชฟ ผู้แทนรัสเซียประจำคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กล่าว “ทุกประเทศที่ปฏิบัติการในภูมิภาคควรต้องร่วมมือกับประเทศเจ้าบ้าน” เขากล่าว พร้อมระบุว่า มอสโกไม่ได้ขอให้สหประชาชาติดำเนินการใดเป็นพิเศษต่อประเด็นนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกและอังการาตึงเครียดหนัก นับตั้งแต่เครื่องบินรบตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตามแนวชายแดนซีเรียเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นับแต่นั้นรัสเซียได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่ออังการา ในนั้นรวมถึงห้ามนำเข้าอาหารตุรกีบางอย่าง และระงับขายแพกเกจท่องเที่ยวไปยังตุรกี ซึ่งก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อุตสากรรมการท่องเที่ยวของอังการา กระตุ้นให้นายกรัฐมนตรีตุรกีออกมากล่าวในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ว่า กำลังพิจารณามาตรการที่เป็นไปได้ต่าง ๆ ในการตอบโต้มอสโกเช่นกัน

ขณะเดียวกัน แบกแดดเรียกร้องตุรกีถอนทหารออกจากทางเหนือของอิรัก ซึ่งอังการาประจำการกำลังพลราว 150 - 300 นาย ภายใต้การสนับสนุนของรถถัง โดยอ้างว่าเพื่อช่วยฝึกกองกำลังอิรักและรัฐมนตรีกลาโหมอิรักก็รับทราบแล้ว

ในวันอาทิตย์ (6 ธ.ค.) แบกแดดให้เวลาอังการา 48 ชั่วโมง ในการถอนทหารออกไป ทว่า ในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ตุรกีบอกแค่ว่าจะหยุดเคลื่อนกำลังพล และขัดขืนคำร้องขอของรัฐบาลแบกแดดที่ให้ถอนกำลังพลที่อยู่ในดินแดนออกไป ในเรื่องนี้ในวันอังคาร (8 ธ.ค.) อิรักได้ร้องขอให้นาโตกดดันชาติสมาชิกของพวกเขาอย่างตุรกี หลังจากเส้นตายให้ถอนทหารผ่านพ้นไปโดยไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆจากฝั่งอังการา


กำลังโหลดความคิดเห็น