อาร์ทีนิวส์/รอยเตอร์/MGR Online - เรือดำน้ำชั้นคิโล (Kilo-class) ล้ำสมัยลำหนึ่งของรัสเซียปรากฏตัวอยู่ใกล้ชายฝั่งซีเรีย จากการเปิดเผยของแหล่งข่างภายในกระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ขณะที่เครื่องบินรบของมอสโกเดินหน้าถล่มเป้าหมายต่างๆ ในประเทศที่ถูกสงครามฉีกขาด ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ว่ามีเป้าหมายที่แท้จริงคือสนับสนุนกองกำลังของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เคยมีข่าวว่าเรือดำน้ำลำเดียวกันนี้ซึ่งติดตั้งขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ล้ำสมัยของรัสเซีย ดำเนินการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในเมืองรักกา ป้อมปราการของพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย แต่ทางกระทรวงกลาโหมมอสโกไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ขณะที่เรือรบเครมลินในทะเลแคสเปียน เคยโจมตีเป้าหมายพวกไอเอสด้วยขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์มาแล้วในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
เรือดำน้ำชั้นคิโล-ปรับปรุง (Improved Kilo-Class) ในรหัสของฝ่ายนาโต้ รอสตอฟ-ออน-ดอน (B-237)เป็นรุ่นปรับปรุงยุคแรกของเรือดำน้ำรุ่น 3 ของชั้นวาร์ชาฟยันสกา (Project 636) โดยเชื่อว่าเรือดำน้ำล่องหนดีเซลไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นเรือดำที่น้ำเงียบที่สุดในโลก มีขอบเขตการสู้รบอย่างกว้างขวางและด้วยที่มันมีขนาดเล็กทำให้สามารถหลบหลีกในน้ำตื้นได้ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า เรือดำน้ำดังกล่าวติดอาวุธตอร์ปิโดขนาด 533 มิลลิเมตร และขีปนาวุธร่อนจากน้ำสู่ภาคพื้นคาลิเบอร์-พีแอล เรือดำน้ำลำนี้มีน้ำหนัก 4,000 ตัน เคลื่อนที่ใต้น้ำด้วยความเร็ว 37 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถดำสู่ระดับความลึก 300 เมตร โดยที่มันบรรทุกลูกเรือ 52 นายและสามารถล่องอยู่ในทะเลโดยไม่ต้องเทียบเท่านานถึง 45 วัน
รัสเซียเริ่มโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายต่างๆ ของพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ในซีเรียมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน โดยปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามคำร้องของของดามัสกัส ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งปฏิบัติการโจมตีไอเอสแยกกันว่ามีเป้าหมายที่แท้จริงคือสนับสนุนกองกำลังของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
สถานการณ์เข้าสู่ความยุ่งยากซับซ้อนขึ้นอีก จากเหตุเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียถูกเครื่องบินรบตุรกียิงตกตามแนวชายแดนซีเรีย นับเป็นครั้งแรกที่ชาติสมาชิกหนึ่งของพันธมิตรนาโตสอยเครื่องบินรัสเซียร่วงนับตั้งแต่ปี 1952 กัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติที่มีบทบาทสำคัญในวิกฤตความขัดแย้งซีเรีย
รัสเซียและพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯต่างกำลังสู้รบกับไอเอสในซีเรีย แต่มอสโกสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ส่วนประเทศตะวันตกในพันธมิตรนานาชาติบอกว่าผู้นำรายนี้สูญเสียความชอบธรรมไปแล้ว
ในวันอังคาร (8 ธ.ค.) รัสเซียได้แสดงความกังวลใหญ่หลวงต่อรายงานข่าวที่ว่าพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯโจมตีทางอากาศถล่มกองกำลังรัฐบาลซีเรียในจังหวัดเดอีร์ อัล-ซอร์ “รัสเซียกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานข่าวที่ว่าเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯโจมตีทางอากาศในฐานที่มั่นของรัฐบาลในเดอีร์ อัล-ซอร์”
นอกจากนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังได้แสดงความกังวลใจต่อผลลัพธ์ของการโจมตีทางอากาศที่ผิดพลาดของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯในจังหวัดฮาซาคัช จนนำความสูญเสียมาสู่พลเรือนเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันจันทร์ (7 ธ.ค.) รัฐบาลซีเรียบอกว่าเครื่องบินของพันธมิตรโจมตีทางอากาศนองเลือดต่อค่ายซีเรีย แต่สหรัฐฯปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และเจ้าหน้าที่อเมริกาที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกว่ามันเป็นฝีมือของมอสโกเอง เนื่องจากรัสเซียก็โจมตีทางอากาศในพื้นที่จังหวัดดอีร์ อัล-ซอร์เช่นกัน