MGRออนไลน์ -- ทางการเวียดนามเปิดท่าเรือแห่งใหม่ในวันอังคาร 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ในบริเวณอ่าวกามแรง ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือใหญ่ที่สุดในภาคกลางเวียดนาม เพื่อเปิดรับเรือขนาดใหญ่จากทุกประเทศ ไปแวะจอดหรือซ่อมบำรุง เป็นแหล่งแวะพักหลบพายุ ทั้งเรือสินค้า เรือสำราญท่องเที่ยว จนถึงเรือรบ และ เรือบรรทุกเครื่องบิน ท่าเรือดังกล่าวรองรับเรือขนาด 100,000 ตัน ได้กว่าสิบลำพร้อมกัน
ประธานาธิบดีเวียดนามเจืองเติ๋นชาง (Truong Tan Sang) ไปเป็นประธานในพิธีเปิดที่จัดขึ้น ในบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือภาค 4 จ.แค้งฮวา (Khan Hoa) โดยมีพล.ท.เลข่าเฟียว (Le Kha Phieu) อดีตเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม นายทหารระดับสูงของกองทัพ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
อ่าวกามแรง (Cam Ranh) เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในย่านแปซิฟิกตะวันตก ในยุคสงครามเวียดนาม กองทัพสหรัฐสร้างท่าเรือน้ำลึก และ สนามบินทันสมัยขึ้นที่นั่น เพื่อใช้เป็นฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศ หลังจากสหรัฐต้องถอนออกจากเวียดนามทั้งหมดในปี 2517 สหภาพโซเวียตได้เข้าใช้ฐานทัพทั้งสองแห่งแทน โดยจ่ายค่าเช่ารายปีให้แก่ทางการคอมมิวนิสต์ในกรุงฮานอย กลายเป็นฐานทัพนอกประเทศใหญ่ที่สุดของโซเวียตในครั้งนั้น
หลังจากโซเวียตล่มสลายในปี 2534 รัสเซียในยุคใหม่ได้ถอนออกจากอ่าวแห่งนี้ ก่อนสัญญาเช่าจะสิ้นสุดลงในปี 2545 ซึ่งผู้นำทางทหารของรัสเซียกล่าวว่า เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง และ ในยุคปัจจุบันรัสเซียยังคงพยายามขอกลับไปใช้ฐานทัพอ่าวกามแรงอีกครั้ง รวมทั้งเคยเสนอลงทุนเข้าพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่นี้ด้วย
อ่าวกามแรงหันหน้าเผชิญกับหมู่เกาะพาราเซล (ฮซ่างซา) ซึ่งเป็นเขตพิพาททางทะเลระหว่างเวียดนามกับจีน และ ไต้หวัน เมื่อปี 2517 ในขณะสงครามเวียดนามเข้าสู่ขั้นแตกหัก หลังจากสหรัฐถอนตัวออกไป คอมมิวนิสต์จีนได้ถือโอกาสส่งทหารเข้ายึดหมู่เกาะแห่งนี้ จากรัฐบาลเวียดนามใต้
รัฐบาลในกรุงฮานอยได้ริเริ่มแผนการพัฒนาส่วนหนึ่งของอ่าวให้เป็น "อ่าวนานาชาติ" เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว เพื่อตอบสนองการเรียกร้องต้องการของทั้งรัสเซียและสหรัฐ ที่ต่างปรารถนาจะเช้าใช้อ่าว เป็นที่แวะจอดของกองเรือแปซิฟิก แต่การก่อสร้างเพิ่งจะเริ่มขึ้นในปี 2557 ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหม
ตามรายงานของกวนโด่ยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หนังสือพิมพ์รายวันของกองทัพประชาชน กระทรวงฯ อนุญาตให้ก่อตั้งบริษัท New Port Ltd - Petro Cam Ranh หรือ Cam Ranh TCP ขึ้นมาดำเนินโครงการนี้ โดยมี Saigon Newport Corp (SNP) ถือหุ้นใหญ่ 75% กลุ่มบริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติ (National Petroleum Corporation Vietnam) ถือหุ้นส่วนที่เหลืออีก 25% รวมมูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์
.
2
3
หลายปีมานี้เวียดนามได้อนุญาตให้สหรัฐส่งเรือสนับสนุนของกองทัพเรือที่ 7 เข้าซ่อมบำรุงภายในบริเวณอ่าวแห่งนี้ได้ ซึ่งที่ผ่านมามีเรือขนส่งกับเรือกู้ภัยของสหรัฐ เข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับเรือรัสเซียจำนวนหนึ่ง แต่หลายปีมานี้เวียดนามยังไม่เคยอนุญาตให้เรือรบของชาติใดแล่นเข้าอ่าวแห่งนี้ นับตั้งแต่เคยนอนุญาตให้เรือพิฆาตรัสเซียลำหนึ่งเข้าเยือน ปัจจุบันเวียดนามเปิดให้เรือรบต่างชาติทุกลำไปแวะเยือนนครด่าหนัง นครหายฝ่องหรือนครโฮจิมินห์แทน
ตามรายงานของสื่อทางการ ท่าเรือแห่งใหม่ล่าสุด จัดสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และ การป้องกันประเทศ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับนานาชาติ ส่งเสริมสันติภาพในย่านทะเลจีนใต้ ขณะที่นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมมองว่า เป็นแผนการอันแยบยลของคอมมิวนิสต์เวียดนาม ในยุคที่เผชิญหน้ากับ "การคุกคาม" จากคอมมิวนิสต์จีน
โครงการท่าเรือนานาชาติอ่าวกามแรง มีมูลค่าการลงทุนราว 2,000 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นส่วนให้บริการบนบกและในน้ำ มีท่าเทียบเรือที่เรือสามารถเข้าจอดได้ทั้งสองข้าง มีระบบไฮดรอลิกกับระบบบริการ อุปกรณ์ทันสมัยอื่นๆ รองรับอย่างเพียงพอ บนบกเป็นที่ตั้งสำนักงานบริหาร อาคารสูง 7 ชั้นอีก 1 หลัง มีที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า กับอาคารสนับสนุนทางเทมคนิคอีก 1 หลัง สื่อของกองทัพรายงาน
เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ ท่าเรือนานาชาติอ่าวกามแรง จะกลายเป็นท่าเทียบเรือใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในย่านนี้ สามารถรับเรือที่มีระวางสูงสุดได้ถึง 110,000 ตัน เข้าจอดเทียบได้ 18 ลำพร้อมกัน เรื่อขนาดเล็กอีกหลายสิบลำ สามารถกำบังคลื่นลมได้อย่างดีในฤดูไต้ฝุ่น
ประธานาธิบดีเวียดนามกล่าวในพิธีเปิด ยืนยันว่าอ่าวกามแรงมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มาในทุกยุคสมัย อยู่ในเส้นทางเดินเรือสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียง และ เวียดนามมีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 3,200 กิโลเมตร มีความจำเป็นจะต้องเสริมขีดความสามารถในการป้องกันตนเองอย่างเพรียบพร้อม
เมื่อเปิดให้บริการ 100% ท่าเรือนานาชาติ จะช่วยเสริมความเข้มแข็งยุทธศาสตร์ป้องกันชาติ รับประกันด้านความมั่นคงปลอดภัย และ กลายเป็นท่าเรือน้ำลึกอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้เส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก กลายเป็นแหล่งให้บริการและสนับสนุนการเดินเรือ เป็นแหล่งซ่อมบำรุงขนาดใหญ่และทันสมัย ได้มาตรฐานโลก ผู้นำเวียดนามกล่าว.