รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ซอยกูเปิดเผยในวันอังคาร(8ธ.ค.) ว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถล่มเป้าหมายต่างๆของรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรียเป็นครั้งแรกแล้ว ระบุก่อความเสียหายร้างแรงแก่คลังแสงและสาธารณูปโภคน้ำมัน
"เป้าหมายคือที่มั่นขนาดใหญ่ 2 แห่งของพวกก่อการร้ายภายในพื้นที่เมืองรักกา" ชอยกูบอกกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างการหารือที่มีการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ พร้อมระบุว่าขีปนาวุธคาลิเบอร์ถูกยิงออกจากเรือดำน้ำรอสตอฟ-ออน-ดอน "เราสามารถพูดด้วยความเชื่อมั่นอย่างที่สุดว่ามันก่อความเสียหายร้ายแรงแก่คลังอาวุธและโรงงานแห่งหนึ่งที่ใช้สำหรับผลิตกับระเบิด และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมัน"
ชอยกูบอกว่าได้แจ้งให้อิสราเอลและสหรัฐฯให้ทราบล่วงหน้าแล้วถึงแผนการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ พร้อมเผยว่าช่วง 3 วันที่ผ่านมา กองทัพอากาศรัสเซียยังได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนือท้องฟ้าซีเรียกว่า 300 เที่ยวและถล่มเป้าหมายต่างๆมากกว่า 600 เป้าหมาย โดยมีเครื่องบินขับไล่คอยอารักขาเครื่องบินทิ้งระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของปูตินด้วย
"เป้าหมายคือที่มั่นขนาดใหญ่ 2 แห่งของพวกก่อการร้ายภายในพื้นที่เมืองรักกา" ชอยกูบอกกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างการหารือที่มีการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ พร้อมระบุว่าขีปนาวุธคาลิเบอร์ถูกยิงออกจากเรือดำน้ำรอสตอฟ-ออน-ดอน "เราสามารถพูดด้วยความเชื่อมั่นอย่างที่สุดว่ามันก่อความเสียหายร้ายแรงแก่คลังอาวุธและโรงงานแห่งหนึ่งที่ใช้สำหรับผลิตกับระเบิด และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมัน"
ชอยกูบอกว่าได้แจ้งให้อิสราเอลและสหรัฐฯให้ทราบล่วงหน้าแล้วถึงแผนการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ พร้อมเผยว่าช่วง 3 วันที่ผ่านมา กองทัพอากาศรัสเซียยังได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนือท้องฟ้าซีเรียกว่า 300 เที่ยวและถล่มเป้าหมายต่างๆมากกว่า 600 เป้าหมาย โดยมีเครื่องบินขับไล่คอยอารักขาเครื่องบินทิ้งระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของปูตินด้วย