นายมาร์ค โทเนอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) ว่า ประเด็นเรื่องการที่กลุ่มไอเอสลักลอบขนส่งน้ำมันเถื่อนออกจากพื้นที่ยึดครองทางเหนือของซีเรียโดยผ่านทางตุรกี เป็นความเคลื่อนไหวซึ่งหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบดี และจับตาสถานการณ์มานานแล้ว แต่ขบวนรถบรรทุกลำเลียงน้ำมันเหล่านั้นเป็นของขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนของเอกชนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส
นอกจากนี้ นายโทเนอร์ยังกล่าวว่า รัฐบาลตุรกีให้ความร่วมมือกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต เป็นอย่างดีตลอดมาในฐานะสมาชิก เพื่อยกระดับมาตรการควบคุมพรมแดนภายนอกอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นการป้องกันความพยายามของกลุ่มไอเอสในการลักลอบขนส่งน้ำมันจากซีเรียออกสู่ตลาดมืด ขณะที่กระบวนการขนส่งและขายน้ำมันของกลุ่มไอเอสในอิรักเป็นไปในลักษณะเดียวกัน และเป็นการขายให้แก่พ่อค้าคนกลาง แต่ไม่ได้ผ่านตุรกี ความเห็นของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยหลักฐานที่พิสูจน์ว่าประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกีและครอบครัวมีส่วนพัวพันและมีผลประโยชน์กับการลักลอบนำเข้าน้ำมันผิดกฎหมายจากดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มไอเอส
นอกจากนี้ นายโทเนอร์ยังกล่าวว่า รัฐบาลตุรกีให้ความร่วมมือกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต เป็นอย่างดีตลอดมาในฐานะสมาชิก เพื่อยกระดับมาตรการควบคุมพรมแดนภายนอกอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นการป้องกันความพยายามของกลุ่มไอเอสในการลักลอบขนส่งน้ำมันจากซีเรียออกสู่ตลาดมืด ขณะที่กระบวนการขนส่งและขายน้ำมันของกลุ่มไอเอสในอิรักเป็นไปในลักษณะเดียวกัน และเป็นการขายให้แก่พ่อค้าคนกลาง แต่ไม่ได้ผ่านตุรกี ความเห็นของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยหลักฐานที่พิสูจน์ว่าประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกีและครอบครัวมีส่วนพัวพันและมีผลประโยชน์กับการลักลอบนำเข้าน้ำมันผิดกฎหมายจากดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มไอเอส